วินเซนต์ ฮิลล์ เกสต์เฮาส์ (Vincent Hill Guesthouse)
เป็นที่พักในฮ่องกงที่ราคาไม่สูงและเป็นโรงแรมระดับสองดาว ตั้งอยู่ในใจกลาง ย่านจิมซาโจ่ย ติดริม ถนนนาธาน ฝั่ง เกาลูน ซึ่งเป็นเขตชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น และยังอยู่ใกล้กับ สถานี Tsim Sha Tsui โดยอยู่ห่างจากทางออก D1 ประมาณเพียง 100 เมตรเท่านั้น รอบๆบริเวณนี้รายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารมากมาย อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากริม อ่าววิคตอเรีย ด้วยสามารถเดินไปเที่ยวได้อย่างสบายๆ ห้างที่อยู่ใกล้ติดกันก็คือ ห้าง K11
วินเซนต์ ฮิลล์ เกสต์เฮาส์ ตั้งอยู่บนตึก มิราดอร์ แมนชั่น (Mirador Mansion) ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังมีเกสต์เฮาส์อื่นๆอีกมากมายที่รวมอยู่ในตึกเดียวกันนี้เช่นด้วย และบางเกสต์เฮาส์ก็มีเจ้าของที่เป็นบุคคลเดียวกัน ชั้นล่างของตึกนี้จะเป็นลักษณะพลาซ่ามีร้านค้าขายของหลากหลาย ตำแหน่งที่ตั้งสามารถดูได้ตามพิกัดจาก กูเกิ้ลแมพ ได้ดังต่อไปนี้
ตามที่อยู่ที่เราได้รับจากการจองผ่านเว็บไซต์เอ็กพีเดีย เราจะต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 8, A-11 ซึ่งในตึกนี้ก็มีลิฟท์ให้บริการอยู่ 3 จุดแต่ละจุดจะมีลิฟท์ 2 ตัวสำหรับจอดเฉพาะชั้นคู่กับชั้นคี่ ระหว่างทางเราจะเห็นสภาพที่อยู่อาศัยบนตึกของชาวฮ่องกง ด้านนอกตึกและทางเดินดูเก่าๆโทรมๆ เดินไปตามทางเดินก็ต้องระวังว่าเสื้อผ้าที่นำมาตากไว้ตามทางเดินจะหล่นใส่ศรีษะ เพราะห้องที่อยู่บนตึกนี้มีขนาดเล็กจึงอาศัยบริเวณทางเดินทำเป็นราวตากผ้า มีทั้งเสื้อ กระโปรง ยกทรง กางเกงใน มากันครบเลยครับ
พอถึงหน้าประตู A-11 ก็ไม่เห็นมีใครเลยและประตูก็ล็อคเปิดไม่ได้ด้วยเหนื่อยก็เหนื่อย มึนอยู่ซักพักมองซ้ายมองขวาก็เห็นกระดาษเขียนแปะติดผนังว่า ให้โทรติดต่อไปที่เบอร์นี้ อ้าว! แล้วจะทำยังไงกันหละทีนี้ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือสำหรับใช้ในฮ่องกงก็ไม่ได้ซื้อมาด้วย แล้วจะติดต่อกับคนดูแลห้องพักได้ยังไง ยืนงงอยู่สักพักก็มีผู้หญิงและผู้ชายลักษณะเหมือนแขกอาศัยอยู่แถวนั้นก็เดินออกมา ผมจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็ใจดีช่วยโทรไปตามเบอร์ที่ให้ไว้และบอกเราว่าต้องลงไปติดต่อที่ A-9 ชั้น 3 จะมีคนดูแลที่พักคอยอยู่ที่นั่น
วินเซนต์ ฮิลล์ เกสต์เฮาส์ ตั้งอยู่บนตึก มิราดอร์ แมนชั่น (Mirador Mansion) ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังมีเกสต์เฮาส์อื่นๆอีกมากมายที่รวมอยู่ในตึกเดียวกันนี้เช่นด้วย และบางเกสต์เฮาส์ก็มีเจ้าของที่เป็นบุคคลเดียวกัน ชั้นล่างของตึกนี้จะเป็นลักษณะพลาซ่ามีร้านค้าขายของหลากหลาย ตำแหน่งที่ตั้งสามารถดูได้ตามพิกัดจาก กูเกิ้ลแมพ ได้ดังต่อไปนี้
ตามที่อยู่ที่เราได้รับจากการจองผ่านเว็บไซต์เอ็กพีเดีย เราจะต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 8, A-11 ซึ่งในตึกนี้ก็มีลิฟท์ให้บริการอยู่ 3 จุดแต่ละจุดจะมีลิฟท์ 2 ตัวสำหรับจอดเฉพาะชั้นคู่กับชั้นคี่ ระหว่างทางเราจะเห็นสภาพที่อยู่อาศัยบนตึกของชาวฮ่องกง ด้านนอกตึกและทางเดินดูเก่าๆโทรมๆ เดินไปตามทางเดินก็ต้องระวังว่าเสื้อผ้าที่นำมาตากไว้ตามทางเดินจะหล่นใส่ศรีษะ เพราะห้องที่อยู่บนตึกนี้มีขนาดเล็กจึงอาศัยบริเวณทางเดินทำเป็นราวตากผ้า มีทั้งเสื้อ กระโปรง ยกทรง กางเกงใน มากันครบเลยครับ
พอถึงหน้าประตู A-11 ก็ไม่เห็นมีใครเลยและประตูก็ล็อคเปิดไม่ได้ด้วยเหนื่อยก็เหนื่อย มึนอยู่ซักพักมองซ้ายมองขวาก็เห็นกระดาษเขียนแปะติดผนังว่า ให้โทรติดต่อไปที่เบอร์นี้ อ้าว! แล้วจะทำยังไงกันหละทีนี้ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือสำหรับใช้ในฮ่องกงก็ไม่ได้ซื้อมาด้วย แล้วจะติดต่อกับคนดูแลห้องพักได้ยังไง ยืนงงอยู่สักพักก็มีผู้หญิงและผู้ชายลักษณะเหมือนแขกอาศัยอยู่แถวนั้นก็เดินออกมา ผมจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากเขา เขาก็ใจดีช่วยโทรไปตามเบอร์ที่ให้ไว้และบอกเราว่าต้องลงไปติดต่อที่ A-9 ชั้น 3 จะมีคนดูแลที่พักคอยอยู่ที่นั่น
หลังจากติดต่อได้แล้วก็ลุ้นว่าจะได้ห้องพักในสภาพแบบไหน คนดูแลห้องก็พาเราไปที่ประตูซึ่งจะเปิดได้ก็ต้องมีรหัสผ่านสำหรับเปิดล็อกประตู พอเปิดประตูเข้ามาก็จะมีทางเดินด้านในและมีห้องนอนแต่ละห้องอีกที ค่อยโล่งอกหน่อยเพราะสภาพก็ดูสะอาดดีแม้จะมีของวางเกะกะบ้างแต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนกับภาพที่เราเห็นด้านนอก ประตูห้องนอนก็จะเป็นลูกปิดใช้กุญแจล็อกธรรมดา
ห้องนอนและห้องน้ำไม่ใหญ่มากนักแต่ก็โอเคสะอาดดีใช้ได้ ห้องนี้เป็นห้องแบบ Deluxe Room ครับ เครื่องปรับอากาศเย็น น้ำในห้องน้ำไหลแรงไม่มีปัญหา มีฟรีไวไฟให้เล่นอินเตอร์เน็ตด้วยครับ แต่ถ้าห้องแบบ Twin Room อาจจะได้ห้องที่แคบกว่านี้และวางสองเตียงชนกันแบบตัว L ก็ได้ ซึ่งผมก็ได้นอนแบบนี้ด้วยหนึ่งคืน วิวจากห้องพักสามารถมองเห็นถนนนาธานได้ครับ
สำหรับผมแล้วห้องพักลักษณะนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหากับผมสักเท่าไหร่ เพราะว่าในตอนเช้าหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมงก็ได้เวลาออกไปข้างนอกกว่าจะกลับมาที่ห้องอีกทีก็สามถึงสี่ทุ่ม ดังนั้นเวลาที่หมดไปส่วนใหญ่ในต่างประเทศของผม จะอยู่ข้างนอกห้องนอนซะมากกว่าที่จะมานั่งเล่นนอนเล่นอยู่แต่ในห้องนอน หรือจะเรียกว่าใช้เป็นที่ซุกหัวนอนก็ได้ครับ ..^_^..