สวนแม่ฟ้าหลวงบนดอยตุง จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
เป็นสวนไม้ดอกที่เรารู้จักกันมานานแล้วว่ามีดอกไม้เมืองหนาวสวยๆหลากหลายชนิด
ให้เราได้เดิน ชื่นชม พักผ่อน และถ่ายรูปสวยๆงามๆกัน แต่ปัจจุบันนี้
สวนแม่ฟ้าหลวง (Mae Fa Luang Garden)
ได้เพิ่มกิจกรรมท่องเที่ยวใหม่ท้าทายความสูง คือ
สะพานเดินและโหนสลิงเรือนยอดไม้ดอยตุง (Doi Tung Tree Top Walk &
Zipline)
ภรรยาและผมได้ไปลองมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จะสนุกและเสียวไส้กันแค่ไหนเชิญติดตามชมได้ครับ
สะพานเดินและโหนสลิงเรือนยอดไม้ดอยตุงเป็นกิจกรรมผจญภัยใหม่ใน สวนแม่ฟ้าหลวง ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาธรรมชาติในป่าบนยอดต้นไม้ที่มีความสูงกว่า 30 เมตร โดยแบ่งเป็นการเดินบนสะพานที่ถูกขึงระหว่างต้นไม้จำนวน 4 ช่วงรวมความยาวเกือบ 300 เมตร (แสดงด้วยเส้นสีเขียวตามรูปด้านล่าง) และจบด้วยการโหนสลิงที่ถูกขึงระหว่างต้นไม้จำนวน 2 ช่วงยาวรวมกว่า 100 เมตร (แสดงด้วยเส้นสีแดงตามรูปด้านล่าง)
เราเดินทางขึ้นมาถึงดอยตุงในวันเสาร์เวลา 11:00 น. ต้องทำการซื้อบัตรเข้าสวนแม่ฟ้าหลวงก่อนในราคาสำหรับบุคคลทั่วไปคนละ 90 บาท สำหรับนักเรียนและผู้สูงอายุคนละ 45 บาท และสำหรับเด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม.เข้าฟรี จากนั้นเดินลงเข้าไปในสวนแม่ฟ้าหลวงมุ่งตรงไปยังจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม Doi Tung Tree Top Walk & Zipline ที่อยู่ไม่ไกล สามารถดูตำแหน่งจุดจำหน่ายบัตรได้ตามแผนที่กูเกิ้ลแมพด้านล่างนี้
ทำการซื้อบัตรเข้าชมในราคาคนละ 150 บาทโดยผู้ใหญ่หรือเด็กจะมีราคาเท่ากัน และการเข้าไปชมใน สะพานเดินและโหนสลิงเรือนยอดไม้ดอยตุง นี้จะแบ่งเป็นรอบๆละครึ่งชั่วโมงและไม่เกิน 15 คนต่อรอบ สำหรับกลุ่มเราได้รอบเที่ยงตรง 12:00 น. ระหว่างที่รอนี้เราก็ไปเดินเล่นและถ่ายรูปเช็คอินในสวนดอกไม้กันก่อนได้ เมื่อใกล้เวลาค่อยกลับมารอบริเวณที่เราซื้อบัตรเข้าชม
พอถึงเวลารอบของเราเจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปใส่ชุดและอุปกรณ์ความปลอดภัย และให้เรามานั่งฟังบรรยายสั้นๆเกี่ยวกับวิธีการเดินบนสะพานและโหนสลิง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยในจุดต่างๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแม้แต่เด็กๆก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ส่วนกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือสามารถนำออกมาถ่ายรูประหว่างเดินได้ แต่ต้องระมัดระวังและดูแลกันเองเพราะถ้าหากตกลงไปข้างล่างแล้วล่ะก็คงไม่มีใครช่วยได้นะครับ
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งคนทั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยก็เริ่มลุยกันเลย เริ่มที่การเข้าคิวต่อแถวเรียงหนึ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรเข้าชม และทำการคล้องอุปกรณ์ความปลอดภัยของเราเข้ากับเชือกสลิง ในระหว่างตลอดการเดินทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมายปลายทางจะไม่สามารถสลับที่หรือแซงกันได้ เพราะถูกบังคับด้วยอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย ดังนั้นใครจะเดินอยู่หน้าหรืออยู่หลังใครก็ให้เรียงคิวกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นนี้เลยครับ
ในช่วงที่ 1 และ 2 เป็นช่วงที่ยังมีความสูงไม่มากและไม่ยาวเท่าไหร่ พื้นสะพานเป็นไม้แผ่นวางตามขวางเรียงชิดติดกัน ราวด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งมีตาข่ายคลุมกันตกตลอดทาง ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นหายห่วงเพราะตัวเรายังถูกคล้องติดไว้กับเชือกสลิงอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยถึงสองชั้น ขณะเดินปรกติบนตัวสะพานเรือนไม้จะมีความโยกเยกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ตั้งใจเดินขย่มแรงๆก็ไม่ได้รู้สึกถึงความน่ากลัวอะไรเลย
เดินผ่านมา 2 ช่วงถึงต้นไม้ต้นที่ 3 ทำการเปลี่ยนระดับโดยการเดินลงช่องบันไดแล้วเดินต่อในช่วงที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการยกระดับความเสียวและท้าทายมากขึ้น โดยการเพิ่มความยาวสะพานมากขึ้น และแม้ว่าเราจะลดระดับลงมาก็จริงแต่ตัวสะพานกลับมีความสูงจากพื้นดินเพิ่มมากขึ้น เพราะพื้นดินด้านล่างมีความลาดชันต้ำลงไป อีกทั้งช่วงนี้พื้นสะพานที่เราเดินไม่ได้ปูไม้แผ่นตามขวาง แต่กลับปูเป็นคู่ตามแนวยาวทำให้พื้นที่ในการเดินดูแคบลง มีความโยกเยกเพิ่มมากขึ้นจากช่วงก่อนเล็กน้อย และสามารถมองทะลุลงไปยังพื้นด้านล่างได้มากขึ้น ช่วงนี้มีต้นไม้สูงใหญ่หนาแน่นขึ้นทำให้รู้สึกว่ากำลังเดินอยู่บนยอดไม้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ
จากช่วงที่ 3 ก็มาต่อช่วงที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการเดินบนสะพานเรือนยอดไม้ที่มีความสูงและความยาวน่าจะพอๆกับหรือมากกว่าช่วงที่ 3 เล็กน้อย ช่วงนี้ความตื่นเต้นอาจลดลงบ้างเล็กน้อยเพราะรู้สึกคุ้นชินแล้ว แต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนเดินบนยอดไม้เข้าไปในป่าลึก เมื่อเดินไปสักพักเราจะเห็นและรู้สึกได้ว่าปลายสะพานของช่วงนี้ที่ยึดกับต้นไม้ต้นที่ 5 จะยกสูงขึ้นและมีบันไดขึ้น 2 ชั้นเพื่อเปลี่ยนระดับไปยังชั้นบนสุดที่เป็นชั้นของการโหนสลิง ทำให้ได้อารมณ์รู้สึกตื่นเต้นกลับขึ้นมาในทันที
ที่ต้นไม้ต้นที่ 5 นี้หากใครเห็นว่าการโหนสลิงดูแล้วน่าหวาดเสียวเกินไป เกิดถอดใจไม่โหนไม่เอาดีกว่าในวินาทีสุดท้าย เรายังสามารถเลือกเดินบนสะพานต่อไปอีก 1 ช่วงเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางได้ แต่ถ้าใครมั่นใจแล้วว่าชีวิตคือการผจญภัยสุดท้าทายก็เดินขึ้นไปยังชั้นโหนสลิงบนสุดได้เลยครับ สำหรับผมแล้วครั้งนี้เป็นโอกาสครั้งแรกในการโหนสลิงที่มีความสูงมากและยาวขนาดนี้ ฉนั้นจึงไม่พลาดที่จะได้ท้าพิสูจน์ความท้าทายอย่างแน่นอน
ก่อนโหนสลิงเจ้าหน้าที่ทำการติดตั้งอุปกรณ์ในการโหนสลิงเพิ่มอีก 1 ชิ้นรองรับตัวเราให้ห้อยและไหลไปกับลวดสลิง โดยที่ตัวเราก็ยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยตัวเดิมที่คล้องเราเข้ากับเชือกสลิงมาตั้งแต่ต้นทางอยู่เหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความปลอดภัยได้ถึง 2 ชั้นในระดับหนึ่ง แต่ความตื่นเต้นสุดท้าทายมันอยู่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ให้เราเสร็จเรียบร้อยแล้ว และบอกกับเราว่าให้ยกเท้าขึ้นเพื่อปล่อยเราให้ไหลออกไปท่ามกลางความสูงเกือบ 40 เมตรโดยที่ไม่มีอะไรกั้นกลางระหว่างตัวเรากับพื้นดิน ซึ่งช่วงเวลานี้มันเริ่มจะกล้าๆกลัวๆต้องทำใจนิดนึงกว่าเราจะยกเท้าขึ้นและไหลไปได้
หลังจากโหนสลิงเสร็จทั้ง 2 ช่วงรวมแล้วเราผ่านช่วงต้นไม้ทั้งหมดจำนวน 6 ช่วง ใช้เวลาเกือบๆ 40 นาทีก็เป็นอันสิ้นสุดการผจญภัยสุดแสนท้าทายและน่าประทับใจในครั้งนี้ หากท่านใดที่ยังไม่เคยเล่นผมแนะนำเลยครับต้องลองสักครั้งหนึ่ง หลังจากนี้ใครที่ถ่ายรูปในสวนดอกไม้มาก่อนแล้วแต่ยังไม่ทั่วก็สามารถเดินถ่ายรูปกันต่อได้ครับ สำหรับผมขอออกไปหาอะไรรับประทานก่อนเพราะเที่ยงกว่าแล้ว ...^_^...