ที่ผ่านมาถ้าพูดถึง
สถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติเกี่ยวกับน้ำที่ไม่ใช่ทะเลของจังหวัด
กระบี่ แล้วผมจะนึกถึง สระมรกต ขึ้นมาทันทีเป็นอันดับแรก
แต่พอได้ไปเที่ยวที่
❝ป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ❞
แล้วทำให้รู้ว่าสถานที่สวยๆที่เกิดจากอิทธิพลของสายน้ำอย่างสถานที่ อันซีน แห่งนี้ก็มีด้วย
ท่าปอมคลองสองน้ำ (Tha Pom Khlong Song Nam)
คือพื้นที่ของ ป่าดิบชื้นในพื้นที่ราบลุ่มที่มีแอ่งน้ำจืดขังตัวเป็นเวลานาน หรือเรียกว่า ป่าพรุ โดยมีธารน้ำไหลลงมาจากแหล่งต้นกำเนิดที่เป็น น้ำผุดธรรมชาติ ภายใต้ภูเขาหินปูนที่ถูกโอบล้อมไปด้วย ป่าดิบชื้น อันอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร
กลายเป็นลำคลองไหลออกลงสู่ทะเลตามหลักการที่ว่าน้ำย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอ
เมื่อระดับน้ำทะเลลดลงน้ำในป่าพรุจะใสมีสีฟ้าอมเขียวและจืดสนิท
พอถึงช่วงที่น้ำทะเลสูงขึ้น
น้ำเค็มก็ไหลเข้ามาหนุนแทนที่ทำให้น้ำขุ่นขึ้นและมีสีเขียวกลายเป็นน้ำกร่อย
เนื่องจากน้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นจนท่วมป่าพรุ
เกิดการสะสมของตะกอนน้ำเค็มขังอยู่ภายใน
ทำให้พันธุ์ไม้นำ้ในป่าพรุน้ำจืดที่ไม่สามารถปรับตัวได้ เช่น ต้นหว้าน้ำ
ต้องยืนต้นตายลงไปและเกิดป่าชายเลนที่มีพันธุ์ไม้ เช่น โกงกางใบเล็ก, จิกเล,
ฝาด ขึ้นมาแทนที่ ครั้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงและมีน้ำจืดไหลเข้ามาสะสม
จนทำให้น้ำเค็มจืดจางลงก็จะเกิดป่าพรุขึ้นมาอีกครั้ง
จากอิทธิพลของของสองสายน้ำนี่เองทำให้เกิดรอยต่อของป่าสองถิ่นคือ ป่าพรุ และ
ป่าชายเลน จึงเป็นที่มาของชื่อ ท่าปอมคลองสองน้ำ
ระบบนิเวศน์ใน ป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ นั้นมีความหลากหลาย
จึงเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ความสมบูรณ์ของธรรมชาติเชิงนิเวศวิทยาได้เป็นอย่างดี
ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเขาครามจึงได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติขึ้น
เป็นทางเดินคอนกรีตเหนือพื้นน้ำที่ไม่มีราวจับ
เดินเป็นวงกลมวนรอบป่าพรุแห่งนี้จนถึงทางออก (อยู่ใกล้ทางเข้า)
แต่ช่วงที่ผมกับภรรยาไปทาง อบต.เขาคราม
ได้ปิดปรับปรุงซ่อมแซมทางเดินตั้งแต่ทางเข้าลึกไปประมาณครึ่งทาง
และเปิดส่วนที่เหลือให้เดินเข้า/ออกตรงทางออกแทน
หลังจากซื้อบัตรค่าบริการแล้วเราก็เดินเข้าชม ท่าปอมคลองสองน้ำ
ตรงทางออกของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
ช่วงแรกๆจะเห็นต้นไม้ที่มีลำต้นเล็กหลากหลาย เช่น โกงกางใบเล็ก, เหงือกปลาหมอ
พื้นน้ำส่วนใหญ่เป็นสีเขียวและขุ่น ระหว่างทางมีศาลาให้นั่งพักผ่อนเป็นระยะ
และในนี้มีร้านกาแฟด้วย ตามทางเดินบางช่วงจะมีป้ายบอกชื่อต้นไม้
และก็มีป้ายบอกอนุญาตหรือห้ามลงเล่นน้ำตามจุดต่างๆ
เมื่อเดินเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆน้ำก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนสีเป็นเขียวอมฟ้าและใสขึ้นเรื่อยๆ
ต้นไม้ก็จะเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดสูงใหญ่กว่าช่วงแรก เดินมาประมาณ 500
เมตรจากทางเข้า
ก็ถึงจุดที่มีการปิดซ่อมทางตรงที่เป็นสะพานมีราวจับและเป็นจุดวนกลับของเส้นทางเดินวงกลม
จากสะพานข้ามลำธารตรงนี้ถ้ามองตามธารน้ำลึกเข้าไปในป่า น้ำจะมีสีฟ้าสวยงาม
เสียดายที่ไม่ได้ทำทางเดินลึกเข้าไปอีก
ที่บริเวณสะพานตรงนี้จะมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำและมีสีฟ้าอมเขียว
รอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ยืนต้นซึ่งบ่งบอกว่า เรากำลังเข้าไปอยู่ในโซนของ
ป่าดิบชื้น ตอนที่ผมไปนั้นเป็นช่วงที่น้ำยังอยู่สูงและกำลังลดลงอย่างช้าๆ
เราพอจะมองเห็นความใสของน้ำได้จากรากไม้ยืนต้น เช่น ต้นชมพู่น้ำ
ถึงแม้ยังมองไม่เห็นพื้นดิน โขดหิน พืช และสัตว์ที่อยู่ใต้น้ำก็ตาม
ผมว่าบริเวณนี้น่าจะเป็นจุดไฮไลน์ของที่นี่เพราะมีความสวยงามมาก
โดยเฉพาะรากของไม่ยืนต้นที่มีระบบรากแขนงแข็งแรง
แผ่กางออกไปเกาะกันไปมาเพื่อจะได้ช่วยพยุงลำต้นกันให้ยืนต้นอยู่ได้
ดูแล้วเหมือน งานศิลปะบนผืนผ้าใบสีฟ้าอมเขียวอย่างงดงาม
แต่ถ้าน้ำลดลงมากกว่านี้เราก็จะเห็นรากไม้โผล่พ้นน้ำมากขึ้นกว่านี้
และน้ำก็คงจะเปลี่ยนสีและมีความใสขึ้นซึ่งก็น่าจะสวยงามไปอีกแบบ สมแล้วที่ๆนี่ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ แต่ยังเสียดายที่วันนั้นเรามีเวลาจำกัดจึงไม่ได้อยู่ดูจนถึงน้ำลด
ป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ ตั้งอยู่ที่ บ้าน หนองจิก หมู่ 2 ตำบล เขาคราม อำเภอ
เมืองกระบี่ จังหวัด กระบี่ ประเทศ ไทย
อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดกระบี่ประมาณเพียง 25 กิโลเมตร
ก่อนเข้าชมต้องซื้อบัตรค่าบริการขององค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม
ราคาคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:00-17:00 น. มีที่จอดรถยนต์ให้บริการกว้างขวาง
สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีและควรตรวจสอบเวลาน้ำขึ้นน้ำลงด้วย
เพราะความสวยงามของทัศนีย์ภาพที่นี่จะอยู่ในช่วงเวลาที่น้ำลง