ได้มีโอกาสไปเดินงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เผื่ออาจเจอที่พักที่ถูกใจในราคาประมาณ 1,000 บาท (เงินในกระเป๋ามีจำกัด)
เดินเล่นอยู่สักพักก็มาเจอบูธรีสอร์ทที่พักชื่อ
ผึ้งหลวง แคมป์กราวด์ ที่เขาใหญ่ มีแพ็กเกจสะดุดตาเขียนว่า 999
บาทต่อ 2 ท่าน เป็นบ้านพักพร้อมอาหารเช้า ซึ่งตรงกับในใจที่ตั้งเอาไว้
เลยแวะทำความรู้จักที่พักแห่งนี้กันสักหน่อย
ผึ้งหลวง แคมป์กราวด์ ตามข้อมูลที่ปรากฏบนเอกสารแผ่นพับบอกเอาไว้ว่า "เป็นรีสอร์ทพื้นที่ 200 ไร่ ติดเขาใหญ่ ขญ.9 ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี ประเทศไทย ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 200 กิโลเมตร ที่นี่ท่านจะได้พบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ห้องพักที่สะดวกสบาย และกิจกรรมท้าทายมากมาย จะมาเพื่อพักผ่อนสบายๆกับครอบครัว สังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือสัมมนาเป็นองค์กรเราก็ยินดีต้อนรับ" จากนั้นเราก็มาสำรวจแพ็กเกจกันว่า 999 บาทนี้มีอะไรบ้างดังรูปต่อไปนี้
หลังจากพูดคุยกับพนักงานขายแล้วเราตกลงซื้อแพ็กเกจนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านพัก 1 คืนพร้อมมื้อเช้าสำหรับ 2 ท่าน เข้าพักได้วันอาทิตย์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันเสาร์และวันหยุดพิเศษ และให้บัตรเล่นกิจกรรม 2 ใบฟรี สามารถเลือกเล่นกิจกรรมได้ 2 อย่างจาก 3 อย่างคือ ปีนป่ายโรยตัว, ยิงธนูเป้าบิน หรือ ปีนผาจำลอง แต่ใจจริงภรรยาและผมอยากขับรถ ATV มากกว่าจึงซื้อบัตรขับรถ ATV เพิ่มอีก 2 ใบในราคาใบละ 200 บาทครับ
ผึ้งหลวง แคมป์กราวด์ ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯมาทางเส้นรังสิต-นครนายกวิ่งต่อจนมาถึงจังหวัดปราจีนบุรี หรือจะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 มาจากจังหวัดฉะเชิงเทราก็ได้ครับ
เราจองบ้านพักในคืนวันอาทิตย์ได้แต่เหลือเพียงหลังเดียวเท่านั้นคือ บ้านผึ้งหวาน A ไม่สามารถเลือกแบบอื่นได้ ตัวบ้านมีสีสันหวานๆเหมือนสีลูกกวาด มีขนาดพอดีกับ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยกสูงจากพื้นดิน ไม่มีระเบียง แต่มีโต๊ะกับเก้าอี้อยู่ที่ลานสนามหญ้าหน้าบ้านที่ตกแต่งไปด้วยต้นลีลาวดีสวยงาม
เข้ามาภายในห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่สำหรับ 2 คนพร้อมกับผ้าห่มผืนบางและผ้าเช็ดตัวอยู่บนเตียง ผนังด้านในข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่ทรงสูงภายในมีไม้แขวนเสื้อให้ 5 อ้น มีเครื่องปรับอากาศอยู่ใกล้ๆกัน ทางปลายตีนเตียงมีทีวีจอแบนติดผนังเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณภาพดิจิตอล (Set Top Box) ถัดมาข้างๆเป็นกระจกส่องหน้า และโต๊ะเล็กแบบยาวพร้อมเก้าอี้ บนโต๊ะมีแก้วน้ำ 2 ใบและกระดาษม้วน ถัดจากโต๊ะเล็กจะเป็นโต๊ะสามเหลี่ยมเข้ามุมพร้อมกับตู้เย็นขนาดเล็กอยู่ด้านล่าง ซึ่งภายในตู้เย็นมีน้ำดื่มฟรีแช่เย็น 2 ขวด สำหรับความสว่างภายในห้องพักมีความสว่างดีทีเดียวเพราะมีหน้าต่างให้อยู่หลายบาน
มาดูห้องน้ำที่อยู่ด้านในกันต่อเลยครับ ตัวห้องน้ำจะไม่เป็นสี่เหลี่ยมแต่จะมีลักษณะโค้งแบ่งพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้งด้วยผ้าม่านรูด ในห้องน้ำมีกระจกส่องหน้า อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดน้ำ และถังขยะ บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีฝักบัวอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ถัดลงมามีสบู่เหลวอาบน้ำและน้ำยาสระผม
จากในบ้านพักเราออกมาเดินดูบริเวณรอบๆที่พักกันสักนิดหนึ่ง พื้นที่ของ ผึ้งหลวง แคมป์กราวด์ มีบริเวณกว้างมากราว 200 ไร่ซึ่งไม่สามารถเดินได้หมดในเวลาจำกัด เราก็เลยถ่ายภาพบริเวณรอบๆใกล้กับบ้านที่เราพัก ที่นี่ค่อนข้างเน้นด้านกิจกรรมเราจึงเห็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ มีประตูฟุตบอลตั้งไว้ให้เราเล่นได้ เราสามารถยืมลูกบอลหรือไม้แบดมินตัลมาเล่นบนสนามนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูป มีชิงช้าอยู่รอบๆสนาม และขี่จักรยานรอบๆรีสอร์ทได้อีกด้วย บ้านพักก็มีหลายรูปแบบตั้งอยู่ในทำเลต่างกันรายล้อมอยู่ในรีสอร์ทรองรับลูกค้าได้ถึง 170 คน
คราวนี้เรามาดูกิจกรรมต่างๆของที่นี่กันบ้างโดยเริ่มจากกิจกรรมยิงธนู ตัวคันธนูและลูกธนูทำด้วยพลาสติก เราจะต้องยิงเป้าที่ทำด้วยโฟมติดอยู่บนตาข่าย ไม่มีการสอนท่ายิงที่ถูกต้องใดๆจากเจ้าหน้าที่ประจำกิจกรรมนี้
ถัดมาใกล้ๆกันเป็นกิจกรรมปีนผาจำลอง ซึ่งกิจกรรมนี้ต้องมีความปลอดภัยสูงจึงมีเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถมาสอนและใส่ชุดอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆให้กับเราก่อนที่จะปีนจริง เราต้องทำการปีนผาจำลองด้วยมือและเท้าเปล่าไปตามจุดที่จับที่เราคิดว่าสามารถยึดเราให้อยู่บนผาได้ แล้วก็ไต่ไปเรื่อยๆให้ถึงยอดเพื่อทำการสั่นกระดิ่งที่อยู่บนยอดสุดให้ได้ สำหรับผมแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ปีนผาจำลองและไต่ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นก็หมดแรง
กิจกรรมต่อไปเป็นการขับรถ ATV จำนวน 1 รอบระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ขับเข้าไปในสวนผ่านป่าตามเส้นทางที่กำหนดไว้แล้วจะวนออกมาครบรอบที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ที่นี่มีรถให้เราเลือก 2 แบบคือแบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติซึ่งจะเหมือนกับการเข้าเกียร์รถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ และแบบเกียร์อัตโนมัติที่เราไม่ต้องเข้าเกียร์บิดอย่างเดียว ภรรยาและผมไม่เคยขับรถ ATV มาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา สำหรับผมแล้วขับได้ไม่ยากแต่ภรรยาผมสิ กว่าจะขับได้คล่องก็ลงข้างทางไปอยู่หลายครั้ง อ้อ!ลืมบอกไปว่าระหว่างที่เราขับเจ้าหน้าที่เขาก็จะขับตามไปอำนวยความสะดวกด้วย
นอกจาก 3 กิจกรรมที่ผ่านมาแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกที่ภรรยาและผมไม่ได้เล่น คือ ปีนป่ายโรยตัว 7 ฐาน, ยิงปืน Paintball, มินิสวนน้ำ และล่องแก่งหินเพิง หากไม่ใช่ฤดูฝนที่มีน้ำพอเหมาะแล้วจะไม่มีกิจกรรมล่องแก่งครับ
เนื่องจากที่รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ลึกเข้ามาท่ามกลางธรรมชาติไม่มีแหล่งขายอาหารข้างนอกที่อยู่ใกล้ๆ หากไม่ได้เตรียมนำอาหารมาทานด้วยก็สามารถสั่งอาหารกับทางรีสอร์ทได้ แต่ทางรีสอร์ทไม่อนุญาตให้ผู้เข้าพักทำการประกอบอาหารครับ มื้อเย็นภรรยาและผมได้สั่งอาหารกับทางรีสอร์ทเป็นข้าวกระเพราหมูกรอบราคา 80 บาทและข้าวพัดพริกแกงหมูราคา 60 บาทอร่อยใช้ได้เลยครับ กลับมาดูอาหารเช้ากันบ้างดีกว่า ห้องอาหารเป็นแบบเปิดโล่งติดกับลานสนามหญ้า อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ มีกาแฟ โอวัลติน ขนมปังพร้อมที่ปิ้งขนมปัง เนย แยมผลไม้ น้ำผึ้ง ไข่ดาว ไส้กรอก แฮมไก่ ข้าวสวย และกับข้าวก็มี ไข่เจียว ผัดผักกระหล่ำปลี และแกงจืด
สุดท้ายนี้สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข หรือแมว แล้วชอบนำไปเที่ยวด้วยกัน ที่นี่เขาอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นและเข้าพักได้ แต่สำหรับผมขณะที่ไปยังไม่มีสัตว์เลี้ยงก็ขอนอนเปิดแอร์ฯเย็นช่ำเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านฟรีไวไฟของรีสอร์ทแล้วกัน...สวัสดีครับ ^_^