เป็นที่ร้อนแรงไปเมื่อต้นปีที่แล้วเมื่อมีข่าว ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (Golden Triangle Special Economic Zone) ริมฝั่งแม่น้ำโขงของ สปป.ลาว เป็นแหล่งฟอกเงินและลักลอบขนยาเสพติดพร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำ กลุ่ม คิงส์ โรมันส์ (Kings Romans Group) ในฐานะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จากข่าวที่กล่าวมาข้างต้นจึงทำให้เกิดทริปท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ เชิญติดตามอ่านกันต่อว่าผ่านมาแล้ว 1 ปีจะยังคงมีความร้อนแรงอยู่มากน้อยเพียงไร
เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เมืองต้นผึ่ง แขวงบ่อแก้ว ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายของประเทศไทย ภายในพื้นที่กว้างใหญ่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้มีทั้ง โรงแรม อพาร์ตเมนต์ ที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ พื้นที่การเกษตร ไชน่าทาวน์ สถานบันเทิง และที่สำคัญมี บ่อนกาสิโน สถานการพนันขนาดใหญ่ที่บริหารงานโดย กลุ่ม คิงส์ โรมันส์ อันลือชื่อ เนื้อที่ทั้งหมดนี้เป็นการขอเช่าจากนักธุรกิจจีน กลุ่มทุน ดอกงิ้ว คำ (Golden Kapok Group) มีอายุสัมปทานนานถึง 99 ปีเลยทีเดียว
การเดินทางไปยัง เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ นั้นไม่ยากเลยคนแก่หรือเด็กก็สามารถไปได้ครับ เราเลือกด่านพรมแดน ไทย-สปป.ลาว ที่ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ (Golden Triangle Thailand - Laos Border Crossing Point) เพื่อข้ามชายแดนไปยัง สปป.ลาว เพราะเป็นด่านพรมแดนที่อยู่ใกล้กับ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ที่สุดและก็เดินทางได้สะดวกสบายที่สุดด้วย สำหรับเอกสารและวิธีการใช้ในการผ่านชายแดนในทริปนี้สามารถอ่านบทความได้ที่ "แนะนำการทำเอกสารผ่านชายแดน ไทย-สปป.ลาว ที่ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ"
หลังจากยื่นเอกสารผ่านด่านตรวจคนเรียบร้อยแล้วเราก็เดินลงไปที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำโขง เพื่อรอเรือรับส่งนักท่องเที่ยวให้บริการฟรีของทางกาสิโน (Casino Shuttle Boat) ระหว่างที่รอเรือและมองไปที่ฝั่ง สปป.ลาว หันไปทางขวามือก็จะเห็นบ่อนกาสิโนและตึกสูงหลายชั้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้านหลังกาสิโน ซึ่งเป็นบริเวณจุดหมายที่เราจะไปกัน หันไปทางซ้ายมือก็จะเห็นท่าเรือสากลสามเหลี่ยมทองคำที่ๆเราจะต้องไปขึ้นฝั่ง เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว
ยืนรออยู่ชั่วอึดใจก็เหลือบไปเห็นเรือสีขาวอยู่ไกลๆกำลังหันหัวมุ่งหน้ามาที่ท่าเรือนี้ พอมาถึงเรือเข้าจอดเทียบท่าสังเกตุเห็นตัวอักษรบนเรือเป็นภาษาจีน และมีสัญลักษณ์เป็นรูปดอกไม้ (น่าจะเป็นดอกงิ้ว) แบบนี้แสดงว่าเป็นเรือรับส่งบริการฟรีของกาสิโนที่เรากำลังรออยู่ ยืนคอยผู้โดยสารในเรือซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนลงจากเรือจนหมดก่อนจึงสามารถเดินขึ้นเรือได้ และคนที่รอขึ้นเรือส่วนใหญ่ก็เป็นชาวจีนเช่นกัน ตัวเรือมีขนาดไม่ใหญ่จึงมีที่นั่งจำนวนน้อย หากขึ้นเรือได้ก่อนก็ได้นั่งก่อนครับ
ใช้เวลานั่งเรือไม่เกิน 5 นาทีเราก็มาถึงท่าเรือสากลสามเหลี่ยมทองคำฝั่ง สปป.ลาว มีข้อความ "ยินดีต้อนรับสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ" ขนาดใหญ่เป็นภาษา ลาว จีน และ อังกฤษ หลังจากออกจากเรือแล้วเราก็เดินขึ้นบันได ตามป้าย "ARRIVAL" เพื่อไปยังอาคาร ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าเรือสากลสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว สำหรับเอกสารและวิธีการใช้ในการผ่านชายแดนในทริปนี้สามารถอ่านบทความได้ที่ "แนะนำการทำเอกสารผ่านชายแดน ไทย-สปป.ลาว ที่ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ"
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วเราก็เดินตามทางเดินผ่าน ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) แล้วเดินออกประตูมาอีกด้านของอาคารก็จะเจอกับบริเวณลานจอดรถ ทางด้านขวามือของเราจะเห็นรถตู้สีดำจอดอยู่ ซึ่งรถตู้คันนี้เป็นรถตู้บริการรับส่งฟรีของกาสิโน (Casino Shuttle Van) จากจุดนี้ไปยังกาสิโน โดยดูได้จากสัญลักษณ์รูปดอกไม้ (น่าจะเป็นดอกงิ้ว) ที่หน้ารถตู้ เนื่องจากกลุ่มของเรามีกัน 6 คนพอเราขึ้นรถตู้คนขับซึ่งเป็นชาวจีนก็ออกรถทันที
คณะเรานั่งรถตู้ที่ข้างในดูหรูหราราคาแพงและนั่งสะดวกสบาย วิ่งจาก ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าเรือสากลสามเหลี่ยมทองคำ จนมาถึง BLUE SHIELD CASINO ซึ่งเป็นกาสิโนที่บริหารโดย กลุ่ม คิงส์ โรมันส์ ตั้งอยู่ในใจกลาง เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น รถตู้จะจอดส่งเราที่โถงนอกอาคารทางเข้าประตูด้านหน้ากาสิโน เราอยู่ถ่ายรูปเช็คอินที่ด้านหน้ากันสักพักก่อนจะเดินเข้าไปด้านในอาคาร
ที่ภายในอาคารจะมีเจ้าหน้าที่กาสิโนคอยตรวจเช็คสิ่งของที่เรานำติดตัวเข้าไป หากสิ่งของใดที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้าไป เช่น กล้องถ่ายรูป ก็จะต้องนำไปฝากไว้ที่จุดรับฝากของ เข้ามาภายในจะเจอกับห้องโถงใหญ่ตกแต่งสไตล์โรมัน มีความหรูหรากว้างขวางและสวยงามมาก ที่ตรงกลางด้านในมีบันไดใหญ่สำหรับเดินขึ้นไปชั้นบน แต่สำหรับผมกับภรรยาแล้วบันไดนี้เป็นที่ๆถ่ายรูปของเราสองคน บริเวณโถงนี้สามารถถ่ายรูปได้โดยใช้กล้องถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ ส่วนทางด้านซ้ายและขวาจะเป็นห้องเล่นการพนันที่มีเครื่องเล่นต่างๆมากมายซึ่งเราไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ชมได้
พนักงานที่นี่สามารถพูดไทยได้อย่างชัดเจน (คุยกันจนลืมถามว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า) หากใครที่สนใจเครื่องเล่นใดก็สามารถสอบถามวิธีการเล่นกับพนักงานได้ สมาชิกในคณะเราท่านหนึ่งเลยขอลองเล่น เพื่อเป็นประสบการณ์ในชีวิตสักครั้งหนึ่งด้วยเงินลงทุน 100 บาทและสามารถใช้เงินบาทไทยได้เลย หลังจากเล่นจนเป็นที่พอใจแล้ว เราก็กดเอาตั๋วหรือบัตรออกมาจากเครื่องเล่นเพื่อนำไปแลกเป็นเงินสดที่เคาน์เตอร์แลกเงิน
หลังจากเดินชมและถ่ายรูปกันแล้วเราก็กลับออกมาข้างนอกที่ด้านหน้ากาสิโน จากนั้นไปต่อกันที่ ไชน่าทาวน์ (Chinatown) ที่อยู่ทางด้านหลังกาสิโนระยะเดินประมาณ 450 เมตร โดยเดินเลี้ยวขวาไปยังสี่แยกแล้วเลี้ยวขวาอีกทีใช้ถนนด้านข้างกาสิโนเดินตรงไปเรื่อยๆจนถึงสามแยกก็เจอกับซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ ระหว่างทางด้านขวามือจะเห็นอาคารสูงใหญ่ติดกับด้านหลังกาสิโนที่กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวสูง 17 ชั้นสำหรับรองรับเซียนพนันที่มาเล่นกาสิโนแห่งนี้
ที่ ไชน่าทาวน์ มีภาษาลาวเขียนอ่านเป็นภาษาไทยว่า "ตลาดจีน" เป็นตลาดการค้าจีนด้านอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยว ซุ้มประตูและตัวอาคารร้านค้าสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมของจีน ภายในมีร้านมากมายก็จริงแต่ก็ไม่ได้เปิดทุกร้าน เท่าที่เห็นก็มีร้านอาหารจีน ร้านเบเกอรี่ และบางร้านที่ดูแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นร้านอะไรเพราะอ่านภาษาจีนไม่ออกก็มีเยอะ ส่วนร้านไหนที่ปิดประตูเงียบสนิทก็จะกลายเป็นที่ถ่ายรูปคู่ของภรรยาและผม ระหว่างทางด้านขวามือมีซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมหรูที่ข้างในมีสวนสวยๆตกแต่งแบบจีนโบราณ แต่เสียดายที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เราเข้าไปถ่ายรูป เราเดินตรงอย่างเดียวตั้งแต่ซุ้มประตูด้านหน้าทางเข้าไปเรื่อยๆจนมาถึงวัดจีนตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีชื่อวัดเป็นภาษาลาวและภาษาจีนซึ่งอ่านจากภาษาลาวเป็นไทยได้ว่า "วัดชงชาน" เราสามารถเข้าไปเดินชมและกราบไหว้ได้แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เราถ่ายรูปเช่นกัน ถึงตรงนี้เราก็เดินกลับเพราะมองไปข้างหน้าแล้วน่าจะไม่มีอะไรแล้ว
ขากลับเราก็เดินย้อนทางเดิมไปที่ BLUE SHIELD CASINO เพื่อขึ้นรถตู้บริการรับส่งฟรีของกาสิโนไปยังท่าเรือสากลสามเหลี่ยมทองคำ และขึ้นเรือรับส่งบริการฟรีของกาสิโนกลับไปยังประเทศไทยที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ สำหรับเอกสารและวิธีการใช้ในการผ่านชายแดนขากลับในทริปนี้สามารถอ่านบทความได้ที่ "แนะนำการทำเอกสารผ่านชายแดน ไทย-สปป.ลาว ที่ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ"
แม้ทริปครั้งนี้เป็นการเดินทางข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว ก็จริง แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศจีน ผู้คนที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวจีนแทบทั้งสิ้น เท่าที่เจอมีชาวพม่าที่ใช้แรงงานอยู่บ้าง หากใครอยากได้ประสบการณ์ในต่างแดนแบบใหม่ๆและมีค่าใช้จ่ายไม่มากแล้วละก็ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ก็น่ามาท่องเที่ยวเหมือนกัน ยิ่งถ้าพูดและอ่านภาษาจีนได้ก็น่าจะสื่อสารกับผู้คนและเที่ยวได้สนุกกว่านี้ครับ ...^_^...