เชียงแสนเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงรายที่มี
จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บริเวณ บ้านสบรวก เป็นหนึ่งใน
ด่านพรมแดน ไทย-สปป.ลาว (Thailand - Laos Border Crossing Point)
ของประเทศไทยซึ่งมีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนดังกล่าว และอยู่เยื้องตรงข้ามกับ
ด่านตรวจคนเข้าเมืองสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว
สปป.ลาว ผมจะมาแนะนำการใช้เอกสารผ่านแดนเข้าออกเมืองระหว่าง
ไทย-สปป.ลาว ที่จุดผ่านแดนสากลนี้ 2 วิธีคือ หนังสือผ่านแดนชั่วคราว
(TEMPORARY BODER PASS) และ หนังสือเดินทาง (PASSPORT)
ติดตามอ่านต่อได้เลยว่าจะมีวิธีและค่าใช้จ่ายต่างกันอย่างไรครับ
วิธีที่ 1 หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (TEMPORARY BODER PASS)
เป็นการออกหนังสือผ่านแดนให้กับคนไทยที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภูมิลำเนาชายแดนตามตกลงกัน มีอายุการใช้เอกสาร 7 วันและสามารถนำไปใช้ได้เพียงครั้งเดียวโดยใช้พำนักได้ไม่เกิน 3 วัน 2 คืน
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำ หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ก็มี
- บัตรประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ
- ค่าธรรมเนียม 30 บาท
- ค่าถ่ายเอกสาร 2 บาท (ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ)
- ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน : อยู่บริเวณด้านหลังที่ว่าการอำเภอเชียงแสนประมาณ 70 เมตร ให้เดินเข้าไปยังซอยข้างด้านขวาของที่ว่าการอำเภอฯ จะเจอกับป้ายบอกทางไป "ทำบัตรผ่านแดน" ให้เลี้ยวซ้ายเดินตามป้ายบอกทาง ก็จะถึงอาคารทำหนังสือผ่านแดนซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดเล็ก
- ที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ : อยู่ที่อาคารเล็กๆด้านซ้ายของ จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นห้องที่ให้บริการอยู่ริมถนนสายหลักที่วิ่งจากตัวเมืองเชียงแสนมายังสามเหลี่ยมทองคำ
การใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว
เดินทางจาก ไทย ไป สปป.ลาว : ที่ด่านตรวจคนฝั่งขาออก ประเทศไทย เพียงยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจและรับคืนมาเท่านั้น ส่วนที่ด่านตรวจคนฝั่งขาเข้า สปป.ลาว ก็ยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจเช่นเดียวกัน แล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม 50 บาท (ครั้งเดียว) และส่งหนังสือผ่านแดนชั่วคราวคืนมาให้เราเก็บไว้ใช้ตอนกลับ ประเทศไทย อีกที
เดินทางจาก สปป.ลาว กลับ ไทย : ที่ด่านตรวจคนฝั่งขาออก สปป.ลาว ยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจและรับคืนมา ส่วนที่ด่านตรวจคนฝั่งขาเข้า ประเทศไทย ก็ให้ยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวให้กับเจ้าหน้าที่แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเก็บไว้เลย
วิธีที่ 2 หนังสือเดินทาง (TEMPORARY BODER PASS)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มี หนังสือเดินทาง อยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้ในการผ่านแดนได้ โดยสามารถพำนักได้ไม่เกิน 1 เดือนและเดินทางไปได้ทั่ว สปป.ลาว
การใช้หนังสือเดินทาง
เดินทางจาก ไทย ไป สปป.ลาว : ที่ด่านตรวจคนฝั่งขาออก ประเทศไทย เพียงยื่น หนังสือเดินทาง ให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจและรับคืนมาเท่านั้น ส่วนที่ด่านตรวจคนฝั่งขาเข้า สปป.ลาว เราจะต้องไปขอ ใบขาเข้า (ARRIVAL CARD) และ ใบขาออก (DEPARTURE CARD) เพื่อมาเขียนก่อนโดย ใบขาเข้า มีรายละเอียดการกรอกข้อมูลดังภาพต่อนี้
หลังจากกรอก ใบขาเข้า เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตรวจพร้อมกับ หนังสือเดินทาง แล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม 40 บาท (ครั้งเดียว) และส่ง หนังสือเดินทาง คืนกลับมาให้เรา
เดินทางจาก สปป.ลาว กลับ ไทย : ที่ด่านตรวจคนฝั่งขาออก สปป.ลาว ให้เราเขียน ใบขาออก ที่เราได้มาตอนแรก (ขาเข้า) โดยมีรายละเอียดการกรอกข้อมูลดังภาพต่อนี้
หลังจากกรอก ใบขาออก เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตรวจพร้อมกับ หนังสือเดินทาง และรับคืนมา ส่วนที่ด่านตรวจคนฝั่งขาเข้า ประเทศไทย ก็ยื่นหนังสือเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจและรับคืนมาก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
สรุปทั้ง 2 วิธีมีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น หากเรามี หนังสือเดินทาง อยู่แล้วผมคิดว่าน่าจะใช้ หนังสือเดินทาง ดีกว่าเนื่องจากไม่ต้องไปเสียเวลาทำ หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ที่ๆว่าการอำเภอฯ และยังมีค่าธรรมเนียมเข้า สปป.ลาว น้อยกว่าเล็กน้อยอีกด้วย แต่หากท่านใดที่ไม่มี หนังสือเดินทาง หรือหมดอายุไปแล้ว การไปทำ หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนและเสียเวลามากมาย ใช้เวลาในการออกหนังสือฯเพียงไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้นครับ ...^_^