จากกรณีพิพาท
ปราสาทพระวิหาร ระหว่างประเทศ ไทย กับ
กัมพูชา ตั้งแต่อดีตมาอย่างยาวนาน ทำให้ผมและภรรยาอยากจะเห็น
ปราสาทพระวิหาร (Temple of Preah Vihear)
อย่างใกล้ชิดสักครั้งหนึ่งจากฝั่งประเทศ
ไทย โดยที่ไม่ต้องเดินทางข้ามไปประเทศ กัมพูชา ก่อน
ดังนั้นเราจึงต้องเดินทางไปที่
อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประเทศไทย เพราะเคยได้รับข้อมูลมาว่ามีถนนและบันไดทางขึ้นประสาทอยู่ในฝั่งประเทศ
ไทย
อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประเทศไทย (Khao Phra Wihan National Park
Thailand)
มีอาณาเขตด้านทิศใต้ติดกับประเทศ
กัมพูชา มีจุดท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
จุดชมวิวภูเซวี่ยงหม้อ, จุดชมวิวหน้าผาช่องโพย,น้ำตกผาช่องโพย, ถ้ำฤาษี,
สถูปคู่, แหล่งตัดหิน, ป่าและสวนหินรอยสระตราว, ภาพสลักนูนต่ำ, ปราสาทโดนตวล,
จุดชมวิวผามออีแดง
และโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งก็คือ
ปราสาทพระวิหาร ที่ๆเราตั้งใจจะไปเที่ยวชมในครั้งนี้
เราใช้เส้นทางที่ต้องผ่าน ผามออีแดง ในเขต
อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยมีค่าเข้าอุทยานฯผู้ใหญ่คนไทยคนละ 40 บาทและรถยนต์อีก 30
บาท แต่เมื่อเดินทางมาถึง ผามออีแดง ถนนที่มุ่งสู่
ปราสาทพระวิหาร กลับถูกปิดกั้นด้วยแผงเหล็กทำให้เราไม่สามารถไปต่อได้
ซึ่งเหลือระยะทางอีกเพียง 600 เมตรเท่านั้น
การที่เราเข้าไปในพื้นที่มากกว่านี้ไม่ได้ก็คงมาจากกรณีพิพาทในช่วงหลัง
ที่ถึงขนาดมีการใช้ปืนใหญ่ยิงปะทะกันเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2554
ทำให้ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจากฝั่งประเทศ
ไทย ไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านี้ และ
กัมพูชา ก็สามารถสร้างถนนขึ้นเขาจนถึง
ประสาทพระวิหาร
ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องอาศัยทางขึ้นจากฝั่ง ไทย อีกต่อไป
ผมกับภรรยาก็เลยต้องอยู่เที่ยวกันที่ ผามออีแดง แทน
ผามออีแดง (Pha Mo I Daeng)
เป็นหน้าผาสูงชันมากมีความยาวตลอดตามแนวผาประมาณ 300 เมตรบน
เทือกเขาพนมดงรัก และยังเป็นพรมแดนตามธรรมชาติที่กั้นระหว่างประเทศ
ไทย กับประเทศ
กัมพูชา มีจุดชมวิวที่สวยงามหลายจุดสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของประเทศ
กัมพูชา ที่อยู่ต่ำลงไปด้านล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
และมีมุมมองทัศนียภาพกว้างแบบพาโนรามาสวยงามมาก
เราเริ่มต้นเดินเที่ยวชมวิวและถ่ายรูปกันที่
จุดชมวิวบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งบริเวณนี้ประกอบไปด้วย
ลานฮับตะวัน (Lan Hub Tawan), ลานฮักลานกอดออดหลอดศรีสะเกษ (Lan Huk Lan Kod
Ood Lood Sisaket)
และ แคนย่อนมออีแดง (Canyon Mo I Daeng) เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น
ชมทะเลหมอกยามเช้าในช่วงฤดูฝนประมาณเดือน สิงหาคม ถึง กันยายน
และสามารถดูดาวยามค่ำคืนได้ในช่วงต้นฤดูหนาวประมาณเดือน ตุลาคม ถึง เมษายน
และบริเวณศูนย์บริการฯนี้ยังมี
หลุมหลบภัย
หลายจุดซึ่งมีขนาดและจำนวนความจุของผู้หลบภัยแต่ละจุดแตกต่างกันไปด้วย
จากนั้นเราก็เดินต่อไปยัง
โลโก้ผามออีแดง (Logo Pha Mo I Daeng) ที่อยู่ไม่ไกลประมาณ 250 เมตร บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวสวยงามที่อยู่บนหน้าผาสูงเช่นกัน
พื้นที่เป็นลานหินกว้างและมีก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่เขียนคำว่า
"ผามออีแดง" เราเดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงศาลาที่มี
เสาธงชาติไทยประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญย้ายมาจาก
ผาเป้ยตาดี บริเวณ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิม
โดยที่ไม่มีการลดธงลงจากยอดเสา
ศาลานี้เป็นตำแหน่งที่ดีที่เราสามารถมองเห็น
ปราสาทพระวิหาร ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาได้
แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะมองไม่ค่อยเห็นเพราะอยู่ไกลมาก เราสามารถใช้
กล้องส่องทางไกล ของทหารที่มีบริการให้นักท่องเที่ยวใช้ส่องดูได้
แต่ภาพจากช่องมองภาพช่างดูไม่ชัดเอาเสียเลย
ผมเลยต้องงัดกล้องของตัวเองออกมาส่องดูและถ่ายภาพก็พอมองเห็นดูได้ดีขึ้น
หลังจากส่องดู ปราสาทพระวิหาร จนพอใจแล้วเราก็เดินย้อนกลับไป 15
เมตรที่เป็นจุดเริ่มต้น
เส้นทางศึกษาธรรมชาติประวัติศาสตร์เขาพระวิหาร (Trail History of Khao Phra
Wiharn Si Sa Ket Thailand)
เพื่อเดินลงไปดู
ภาพสลักนูนต่ำ (Bas-Relief)
ตามบันไดและทางเดินไม้ริมหน้าผามีระยะทางน่าจะราวๆ 40 เมตรเท่านั้น
ภาพแกะสลักเป็นรูปบุคคลในท่านั่ง 3 คน หรืออาจเป็นรูปตัวแทน พระศิวะ (Shiva God), พระอุมา (Uma Goddess) และ พระนารายณ์ (Vishnu God) บนผาหินทรายมออีแดงซึ่งมีอายุประมาณ 1,500
ปี และได้รับการประกาศเป็นหนึ่งใน
อันซีน ไทยแลนด์ 2 (Unseen Thailand 2) ด้วย
บริเวณใกล้เคียง ผามออีแดง ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ
200 เมตร เพื่อไปชม โบราณสถานสถูปคู่ ก่อสร้างด้วยหินทราย
แต่ผมกับภรรยาไม่ได้เดินไปชมเพราะวันนั้นแดดร้อนแรงมาก
หากท่านใดต้องการไปชมควรเตรียมอุปกรณ์กันแดด เช่น ร่ม ติดตัวไปด้วยก็ดีครับ
ระหว่างเดินทางกลับเราแวะถ่ายรูปคู่กันที่
จุดชมวิวบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กันอีกครั้งก่อนกลับ
ผามออีแดง ตั้งอยู่ที่ ตำบล เสาธงชัย อำเภอ กันทรลักษ์ จังหวัด ศรีสะเกษ
ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประเทศไทย โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 221
ขับไปจนสุดทางถึงที่มีแผงรั้วเหล็กและรั้วลวดหนามกั้นไว้ก็จะเป็นบริเวณของ
ผามออีแดง นั้นเอง ที่นี่มีลานจอดรถกว้างขวางและมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ
..^_^..