เมื่อสิบกว่าปีมาแล้วผมกับภรรยาเคยมา
แคมป์ปิ้ง กางเต็นท์ ที่นี่แล้ว เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
สมัยนั้นยังเรียกติดปากว่า
สวนป่า เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า และยังจำได้ว่าตอนนั้นไปช่วงฤดูฝนพื้นที่
กางเต็นท์ ที่อยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ
มีต้นไม้และหญ้าปกคลุมเขียวชอุ่มเต็มพื้นที่ดูสวยงามสดชื่นมากๆ มาวันนี้เรากลับไป
กางเต็นท์ อีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้เราไม่ได้ไปช่วงฤดูฝนซึ่งสถานที่พักแรมจะสวยงามเพียงไรเชิญตามชมเลยครับ
เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า หรือ
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
(Jedkod-Pongkonsao Natural Study and Ecotourism Center)
อยู่ในความดูแลของหน่วยงานในสังกัด
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี (สระบุรี) ของ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับผิดชอบบริหารจัดการและพัฒนา
สวนป่า เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการอนุรักษ์และทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
สำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนและศึกษาธรรมชาติทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างใกล้ชิด
เราเดินทางจาก
กรุงเทพมหานคร
โดยรถยนต์ส่วนตัวขับแบบสบายๆสไตล์สโลว์ไดร์ฟตามที่กฎหมายกำหนด ใช้เวลาประมาณ 2
ชั่วโมงก็มาถึงปากทางแยกจากถนน มิตรภาพ เข้าสู่ถนนมุ่งไป
เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านค้าสะดวกซื้ออยู่หลายร้าน
และมีตลาดขายของกินอยู่ซ้ายมือ
เราแวะซื้อเสบียงอาหารเตรียมไปทำอาหารทานกันทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้าวันพรุ่งนี้
จากนั้นก็เดินทางต่อตรงเข้าไปยังจุดหมายประมาณ 16
กิโลเมตรก็จะเจอด่านที่มีป้ายเขียนว่า
“ศูนย์ฝึกอบรมที่ 6 เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า” และ
“ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า” แสดงว่าเราขับรถมาถูกทางแล้วก็ตรงเข้าไปได้เลยครับ
จอดรถเสร็จก็เข้าไปยังอาคาร
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Visitor Center) ให้เราไปลงทะเบียนที่
จุดลงทะเบียน (Register Point and Information)
จากนั้นก็ขับรถยนต์เข้าไปหาที่จอดรถใกล้ๆบริเวณ
ลานกางเต็นท์ (Campground) ซึ่งจะอยู่บริเวณติดกับริม
โครงการชลประทานขนาดเล็ก อ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน
ส่วนเต็นท์จะต้องนำมาเองเพราะที่นี่ไม่มีให้เช่า
และตรงจุดลงสัมภาระจะมีรถเข็นสำหรับขนของให้บริการ
นักท่องเที่ยวจะได้ไม่ต้องเดินขนสัมภาระไปมาหลายรอบ
เราเดินหาจุด กางเต็นท์ และตัดสินใจกันอยู่นาน
เพราะสภาพพื้นที่ๆมีหญ้าน้อยไปสักหน่อย สรุปแล้วได้ที่
กางเต็นท์ ริมน้ำไม่ไกลกับทางเดินไป
น้ำตกเจ็ดคดเหนือ ที่ตรงนี้เป็นดินไม่มีหญ้าสีเขียวขึ้นเลย
เหตุผลที่เลือกตรงนี้ก็เพราะอยู่ใกล้กับที่จอดรถยนต์ของเราและใกล้ห้องน้ำด้วย
แต่ก็ยังมีเหตุผลสำคัญที่สุดอีกข้อหนึ่งว่าทำไมผมต้อง
กางเต็นท์ ตรงนี้เดี๋ยวเอาไว้เฉลยอีกทีครับ หลังจาก
กางเต็นท์
เสร็จเรียบร้อยคุณแม่บ้านสมองไวของผมก็เริ่มหน้าที่จัดแจงทำอาหารทันที
ทริปนี้คุณแม่บ้านมือใหม่อยากลองใช้เตาถ่านเป็นครั้งแรก
อุตสาห์ไปหาซื้อเตาและถ่านไร้ควันมาเองด้วย
คุณคงไม่เชื่อแน่ๆว่ากว่าจะทำให้ถ่านติดไฟก็ใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง
ควันนี่ลอยฟุ้งไปทั่วดีที่เรา กางเต็นท์ อยู่ห่างจากเต็นท์คนอื่น
ผมล่ะคิดว่าคืนนี้จะต้องอดกินข้าวเย็นอย่างแน่นอน
แต่สวรรค์ยังปราณีเราจนในที่สุดก็ทำอาหารเสร็จจนได้และหน้าตาน่ากินมาก
เข็ดแล้วกับเตาถ่านเสียเวลามาก ทริปหน้าถ้าจะทำอาหารอีกใช้
เตาแก๊สพกพา หรือ เตาแก๊สปิคนิค แทนดีกว่า
จะได้ไม่เสียเวลาทำอาหารเอาเวลาไปเดินเล่นและถ่ายรูปดีกว่า
ตกดึกคำ่คืนนี้เราจะมา
นอนดูดาว
กันซึ่งเป็นจุดเด่นหนึ่งของที่นี่เนื่องจากบริเวณท้องฟ้าบน อ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน จะมีพื้นที่กว้างมากพอจึงไม่มีต้นไม้มาบดบังสายตาเรา
และนี่ก็เป็นเหตุผลข้อสุดท้ายของผมที่มา
กางเต็นท์ ตรงจุดนี้เพราะสามารถ ดูดาว และ
ถ่ายรูปแสงดาว ออกมาได้เป็นวงกลมหมุนล้อมรอบ
ดาวเหนือ (Polaris) ที่อยู่ใกล้กับ
ขั้วฟ้าเหนือ (The North Celestial Pole)
จึงดูเหมือนไม่เคลื่อนไหวอยู่นิ่งกับที่
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ก็มี ก็อกน้ำและอ่างล้างภาชนะ จุดทิ้งขยะ
ห้องน้ำมี 2 จุดอยู่ห่างกันประมาณ 320 เมตร แต่ละจุดแบ่งห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง
มีร้านค้าสวัสดิการขายน้ำมันน้ำปลาและมีกระป๋องแก๊สสำหรับเตาแก๊สพกพาด้วย เห็นป้ายชี้บอกมีร้านอาหารแต่ผมไม่ได้เดินไปดูเลยไม่รู้ว่าเป็นร้านแบบไหนและขายอะไรบ้าง ที่นี่นอกจากมี ลานกางเต็นท์ แล้วยังมี บ้านพักแบบต่างๆ เช่น บ้านพักแบบ 4 ยูนิต,
บ้านเดี่ยวแอร์ และ บ้านปีกไม้ เป็นต้น
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ตั้งอยู่ที่ ตำบล ท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัด
สระบุรี ประเทศ ไทย 18180 ไม่เสียค่าเข้าสถานที่
และไม่เสียค่าบริการใช้พื้นที่ในการ
กางเต็นท์ แต่จะให้เราบริจาคเองเท่าไหร่ก็ได้เป็นค่าบำรุงสถานที่
นอกจากเราจะมา แคมป์ปิ้ง ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำได้อีก เช่น
เดินเล่นชมวิวถ่ายรูป, วิ่ง/ปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำ หรือจะเลือก
เดินป่า ตาม
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไปชมน้ำตกซึ่งมีอยู่หลายเส้นทางให้เลือก
ตั้งแต่ระยะทางสั้น 1.2 กิโลเมตรไปจนถึงระยะทางไกล 2.6 กิโลเมตร
จึงเหมาะแก่การมาพักผ่อนและท่องเที่ยวเพราะอยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพมหานคร ในช่วงที่ เชื้อโควิด-19 กำลังระบาดอาจต้องโทรติดต่อสอบถามก่อนเนื่องจากมีการกำหนดจำนวนคนในการเข้าไปใช้บริการภายในพื้นที่
..^_^..