รีวิว แนะนำ วิธีตรวจสอบและโดยสารเรือข้ามฟากไปกลับ เกาะพีพี (Phi Phi Islands) ด้วยเรือเฟอรี่ (Passenger Ferry) จาก ท่าเทียบเรือรัษฎา (Rassada Harbour) จ.ภูเก็ต ในช่วงโควิด-19 ระบาด

0

ในยามปกติที่ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อไวรัส โควิด-19 แพร่ระบาดนั้น การเดินทางข้ามฟากไปยัง เกาะพีพี (Phi Phi Islands) ก็มีทางเลือกหลายทางทั้งท่าเรือ วัน และเวลา แต่ในยามนี้ที่นักท่องเที่ยวลดน้อยลงอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับการให้บริการเพื่อความอยู่รอด ผมเลยขอแชร์ประสบการณ์ที่เพิ่งข้ามฟากไปยัง เกาะพีพี มาเพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนที่กำลังจะไป


เรือโดยสารที่ใช้ข้ามฟากจากฝั่งแผ่นดินไปยัง เกาะพีพี ส่วนใหญ่ก็มี เรือเฟอรี่ (Ferry) กับ เรือสปีดโบ๊ท (Speedboat) ซึ่งจะต่างกันตรงที่ เรือเฟอรี่ มีขนาดใหญ่กว่า รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า ทำให้มีน้ำหนักมากจึงใช้เวลาเดินทางมากกว่า แต่ค่าโดยสารจะถูกกว่า เรือสปีดโบ๊ท สำหรับผมแล้วผมเป็นคนที่เมาเรือง่ายเลยเลือกใช้บริการ เรือเฟอรี่ เพราะเวลาที่วิ่งอยู่ในทะเลจะไม่ค่อยโยกเยกไปมาตามคลื่น
ผมขอยกตัวอย่าง เรือเฟอรี่ (Passenger Ferry) ที่เพิ่งใช้บริการมาเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีตารางเรือโดยสารประจำเดือนมีนาคมดังภาพด้านบนนี้ จะเห็นได้ว่าจำนวนเที่ยวเรือลดลงโดยเฉพาะที่ ท่าเรือคลองจิหลาด (Klong Jilad Pier) ฝั่งจังหวัด กระบี่ เหลือให้บริการเฉพาะวันคี่เท่านั้น ซึ่งท่าเรือนี้เหมาะที่จะไปลงเรือเพราะอยู่ใกล้ เกาะพีพี ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าท่าเรือจากฝั่งจังหวัด ภูเก็ต และที่สำคัญค่าโดยสารถูกกว่าด้วย เราสามารถเช็คตารางเรือโดยสารประจำเดือนล่าสุดได้ที่เพจเฟสบุ๊ค สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ Krabi Tourism Association


ครั้งนี้ผมจำใจต้องไปขึ้นเรือข้ามฟากที่ ท่าเทียบเรือรัษฎา (Rassada Harbour) จังหวัด ภูเก็ต ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้นคือ กำหนดวันเดินทางข้ามฟากของผมเป็นวันคู่ เลยต้องใช้บริการ เรือเฟอรี่ ของ พีพี ครุยเซอร์ (Phi Phi Cruiser) ซึ่งต้องโทรไปจองและมัดจำที่นั่งก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 1 วันเท่านั้นเพราะช่วงนี้ผู้โดยสารไม่เยอะ ส่วนราคาค่าโดยสารก็มี 2 แบบคือ แบบขาเดียวราคา 450 บาท และแบบไปกลับราคา 800 บาท





ผมกับภรรยาเดินทางไปที่ ท่าเทียบเรือรัษฎา ด้วยรถยนต์ส่วนตัว พอถึงป้อมยามทางเข้าก็แสดงบัตรประชาชนและรับบัตรจอดรถเก็บเอาไว้ใช้อีกทีตอนออก จากนั้นก็เลี้ยวรถเข้าไปทางซ้ายมือจะมีที่จอดรถกลางแจ้งอยู่ด้านหน้าอาคาร เราจะจอดรถทิ้งไว้ที่นี่โดยมีค่าจอดรถอยู่ที่วันละ 100 บาท ล็อครถให้เรียบร้อยและอย่าทิ้งของมีค่าไว้ในรถจากนั้นก็ขนสัมภาระเดินเข้าไปในตัวอาคาร





เราเดินไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของ พีพี ครุยเซอร์ ซึ่งจะอยู่ที่ GATE 2 (ประตู 2) เดินตามป้ายลูกศรบอกทางเลยครับ หลังจากเช็คอินแล้วเราจะได้ สติกเกอร์แปะติดเสื้อ และ บัตรแข็ง Passenger pass เพื่อใช้ผ่านประตู หากใครซื้อตั๋วแบบไปกลับ (Roundtrip) ก็จะได้ตั๋วขากลับสีขาวยาวๆมาให้ด้วย เพื่อใช้ในการเดินทางกลับเพราะฉะนั้นเก็บไว้ให้ดีอย่าทำหายเด็ดขาด ภายในอาคาร ท่าเทียบเรือรัษฎา มีห้องสุขาให้บริการ ไม่ต้องกังวลหากต้องมาแต่เช้าๆ แต่ในส่วนร้านค้าเห็นปิดร้านซะเป็นส่วนใหญ่






ประตูทางออกไปยังเรือจะเริ่มเปิดให้เราได้ลงเรือก่อนกำหนดเวลาเรือออกประมาณ 15 นาที ก่อนผ่านประตูให้ใช้บัตรแข็งที่ได้รับมาตอนเช็คอินเสียบเข้าไปในช่องเสียบบัตรแล้วเดินผ่านประตู จากนั้นเจ้าหน้าที่ของ พีพี ครุยเซอร์ ก็จะบอกทางเดินไปลง เรือเฟอรี่ พีพี ครุยเซอร์ โรส (PHI PHI CRUISER ROSE) หากเรามีกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระขนาดใหญ่เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยยกขนไปเก็บบนเรือให้เรา

ทางเข้าอยู่ท้ายเรือ

ห้องโดยสารชั้นกลาง

บันไดทางลงห้องโดยสารชั้นล่างด้านท้าย

บันไดทางลงห้องโดยสารชั้นล่างด้านหน้า

ห้องโดยสารชั้นล่าง

ทางเข้าเรือจะอยู่ท้ายเรือโดยห้องโดยสารหรือที่นั่งบน เรือเฟอรี่ ของ พีพี ครุยเซอร์ จะมีอยู่ 3 ชั้น เริ่มต้นที่ชั้นกลางเป็นห้องแอร์และมีจำนวนที่นั่งและกว้างมากที่สุด และที่ชั้นกลางนี้จะมีบันไดลงไปชั้นล่างซึ่งก็ยังอยู่ในห้องแอร์เหมือนกัน ส่วนชั้นบนจะมีพื้นที่นั่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนกลางแจ้ง และห้องแอร์โดยห้องแอร์ชั้นบนนี้จะมีจำนวนที่นั่งน้อยสุดใน 3 ชั้นนี้ นอกจากนี้ที่ชั้นบนจะมีทางเดินไปด้านหน้าสุดของเรือได้ด้วย ส่วนห้องน้ำบนเรือก็มีให้อยู่ที่ท้ายเรือประมาณ 6 ห้องและไม่ได้อยู่ในห้องแอร์อาจจะร้อนสักหน่อย

พื้นที่นั่งโดยสารกลางแจ้งท้ายเรือ


ห้องโดยสารชั้นบน

พื้นที่นั่งโดยสารกลางแจ้งหัวเรือ



จุดหมายปลายทางของเรือ พีพี ครุยเซอร์ จะไปจอดส่งเราที่ ท่าเรือเกาะพีพี (Phi Phi Pier) ที่ อ่าวต้นไทร (Ton Sai Bay) ของ เกาะพีพีดอน (Phi Phi Don Island) แต่ระหว่างเส้นทางเรือจะไปหยุดจอดที่หน้า อ่าวมาหยา (Maya Bay) ของ เกาะพีพีเล (Phi Phi Le Island) เพื่อให้เราได้ชมและถ่ายรูปจากบนเรือ ซึ่งปัจจุบัน อ่าวมาหยา ยังปิดชายหาดแบบไม่มีกำหนดเปิด จากนั้นเรือก็จะวิ่งอ้อม เกาะพีพีเล เพื่อให้เราได้ชมวิวรอบเกาะและไปจอดที่ ท่าเรือเกาะพีพี หรือเรียกกันติดปากว่า ท่าเรืออ่าวต้นไทร (Ao Ton Sai Pier) รวมเวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง

อ่าวมาหยา

ท่าเรือเกาะพีพี (ท่าเรืออ่าวต้นไทร)





ในตอนขากลับเรือมีกำหนดออกจากท่าเรือเวลา 15:00น. เมื่อเราเช็คเอาท์ออกจากที่พักในตอนเที่ยงเราสามารถนำกระเป๋าเดินทางและสัมภาระมาเก็บไว้ที่ เรือเฟอรี่ พีพี ครุยเซอร์ โรส (PHI PHI CRUISER ROSE) ของ พีพี ครุยเซอร์ ซึ่งจอดเที่ยบท่าอยู่ก่อนแล้วได้ จากนั้นเรายังมีเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงไปหาอะไรกินและเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปได้ จนถึงเวลาใกล้เรือออกก่อนสัก 10-20 นาทีให้เดินเข้ามาที่ท่าเรือซึ่งจะมีโต๊ะของ พีพี ครุยเซอร์ ให้เราได้ทำการเช็คอินก่อนลงเรือ และเดินทางกลับจนถึง ท่าเทียบเรือรัษฎา จังหวัด ภูเก็ต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ..^_^..

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)