หมู่เกาะพีพี
คิดจะไปเที่ยวสักครั้งมานานแล้ว
แต่ก็ยังไม่เคยไปสักทีเพราะเห็นว่ามีชาวต่างชาติไปเที่ยวเยอะมาก
มาคราวนี้ได้โอกาสที่ชาวต่างชาติยังเข้ามาในประเทศ
ไทย ไม่ได้ก็เลยใช้ช่วงเวลานี้ชวนภรรยาไปเที่ยว
เกาะพีพี ซึ่งเธอก็ยังไม่เคยไปเหมือนกัน
แต่ก็มีคนทักท้วงว่าอย่าไปเลยตอนนี้มันไม่มีอะไรเลย
นั่นแหละจึงเป็นสาเหตุที่ผมยิ่งอยากไปจะได้รู้ว่ามันมีอะไร
หมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประกอบไปด้วย
เกาะพีพีดอน (Phi Phi Don Island), เกาะพีพีเล (Phi Phi Le Island), เกาะยูง
(Yung Island), เกาะไม้ไผ่ (Mai Pai Island), เกาะ ปิด๊ะนอก (Pida Nok
Island)
และ เกาะปิด๊ะใน (Pida Nai Island) โดยที่
เกาะพีพีดอน
มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีสิ่งปลูกสร้างอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น
โรงแรม รีสอร์ท บังกะโล ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่างๆ
อยู่บนเกาะนี้เพียงเกาะเดียวเท่านั้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปเที่ยวกันที่
เกาะพีพีเล เพราะเป็นเกาะที่มีเวิ้งอ่าวและแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม
อีกทั้งยังมีชายหาดสวยงามที่
อ่าวมาหยา (Maya Bay)
อันขึ้นชื่อโด่งดังระดับโลกเพราะเคยเป็นฉากในภาพยนต์เรื่อง
The Beach มาแล้ว
ทริปนี้เราวางแผนว่าจะยังไม่ไปเที่ยว เกาะพีพีเล เนื่องจาก
อ่าวมาหยา ถูกปิดทำการแบบไม่มีกำหนด ดังนั้นเราจะเที่ยวอยู่แต่บน
เกาะพีพีดอน เท่านั้น เราจอง เรือเฟอรี่ โดยสารข้ามฟากของ
พีพี ครุยเซอร์ (Phi Phi Cruiser) โดยไปลงเรือที่
ท่าเทียบเรือรัษฎา (Rassada Harbour) จังหวัด ภูเก็ต
[อ่าน รีวิวแนะนำ วิธีตรวจสอบโดยสารเรือข้ามฟากไปกลับ เกาะพีพี
ช่วงโควิดระบาด]
และจองที่พัก 2 คืนที่
พีพี กรีน ฮิลล์ รีสอร์ท (Phi Phi Green Hill Resort)
[อ่าน รีวิวที่พัก พีพี กรีน ฮิลล์ รีสอร์ท]
วันแรก : เดินทางไปเกาะพีพี, เกาะพีพีเล, จุดชมวิวเกาะพีพี
เรือออกจาก ท่าเทียบเรือรัษฎา เวลา 9:00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงถึง ท่าเรือเกาะพีพี (Phi Phi Pier) หรือเรียกกันติดปากว่า ท่าเรืออ่าวต้นไทร (Ao Ton Sai Pier) ซึ่งเป็นท่าเรือหลักบน เกาะพีพีดอน ใน หมู่เกาะพีพี
เกาะพีพีเล (Phi Phi Le Island)
ระหว่างเดินทางเรือที่เราโดยสารได้ไปจอดให้เราได้ชมและถ่ายรูปที่หน้า อ่าวมาหยา หลังจากนั้นก็วิ่งอ้อมรอบ เกาะพีพีเล ให้เราได้ชมความงามของเกาะและแหล่งท่องเที่ยว เช่น อ่าวโล๊ซามะ (Loh Samah Bay), อ่าวปิเล๊ะ (Pileh Bay), ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave) และ อ่าวลิง (Monkey Bay)
อ่าวมาหยา (Maya Bay) |
อ่าวโล๊ซามะ (Loh Samah Bay) |
อ่าวปิเล๊ะ (Pileh Bay) |
ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave) |
อ่าวลิง (Monkey Bay) |
เมื่อถึง เกาะพีพีดอน เราจะต้องเสีย ค่าธรรมเนียม ค่ารักษาความสะอาดท่าเทียบเรือเกาะพีพี ในราคาคนละ 20 บาท หลักจากนั้ก็เข้าเช็คอินที่พักเพื่อเก็บกระเป๋าและสัมภาระต่างๆก่อน ระหว่างทางจะเห็นร้านค้าต่างๆปิดกันไปเป็นแถว เพราะแทบไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเลยดูเงียบเหงามาก แต่ยังพอมีบางร้านเปิดอยู่บ้าง เช่น ร้านเซเว่น ร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่น ร้านผลไม้ ร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท แผนที่ๆบอกตำแหน่งร้านค้าร้านอาหารวันนี้คงใช้ไม่ได้แล้ว และมีสิ่งหนึ่งที่แปลกใจก็คือเห็น แมว หลากสีหลากลายอยู่บนเกาะนี้เยอะจริงๆ และเชื่องมากจะพาเอากลับบ้านไปเลี้ยงสักตัวก็คงไม่มีใครว่าอะไร
จุดชมวิวเกาะพีพี (Phi Phi Viewpoint)
ที่ท่องเที่ยวบน เกาะพีพีดอน ที่แรกที่เราจะไปก็คือ
จุดชมวิวเกาะพีพี ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด แต่ช่วงที่เราไปจุดที่ 3 ปิด
ก็เลยไปได้แค่ 2 จุด โดยที่
จุดชมวิวที่ 1 (Viewpoint 1)
ทางเดินขึ้นเป็นบันไดคอนกรีตแคบๆระยะทางน่าจะราวๆ 200 เมตร
ดูไม่ไกลแต่เดินขึ้นเขาชันมากเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ที่
จุดชมวิวที่ 1 นี้เราจะต้องซื้อตั๋วขึ้นชมวิวราคาคนละ 30 บาท
ซึ่งราคานี้รวม จุดชมวิวที่ 2 ด้วย จุดชมวิวที่ 1
นี้ยังสูงไม่พอที่จะมองเห็นอ่าวจึงไม่สวยมากสักเท่าไร
หลักจากถ่ายรูปและพักหายเหนื่อยแล้วเราก็เดินไปต่อกันที่ จุดชมวิวที่ 2
จาก จุดชมวิวที่ 1 เดินต่ออึกประมาณ 600 เมตร ก็จะถึง
จุดชมวิวที่ 2
ทางเดินช่วงนี้เป็นทางคอนกรีตเรียบๆไม่ใช่บันไดและมีความชันน้อยกว่าช่วงแรก
บริเวณจุดชมวิวนี้มีลักษณะเป็นหน้าผามีก้อนหินใหญ่หลายก้อนให้ยืนถ่ายรูปได้
และยังมีการทำพื้นคอนกรีตเรียบๆเพิ่มเติมยื่นออกไปให้เราได้ยืนชมวิวและถ่ายรูปได้อีกด้วย
จากบนนี้เราสามารมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ที่ธรรมชาติได้มอบความงามให้จนติดอันดับโลกได้อย่างชัดเจน
โดยที่ทางด้านซ้ายเป็น อ่าวต้นไทร และทางขวาเป็น
อ่าวโล๊ะดาลัม และที่สำคัญยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามอีกด้วย
ขึ้นมาถึงจุดชมวิวทั้ง 2
จุดไม่วายก็ยังเจอแมวเจ้าถิ่นอีกแต่รูปข้างล่างนี้เป็น"มีโชค"แมวของเราเอง
เป็นไงแต่งตัวเต็มยศหล่อไหมครับ
อีกอย่างถ้าพกน้ำดื่มติดตัวขึ้นมาบนนี้ได้ก็พกมานะครับเพราะข้างบนนี้ราคาแพงกว่าข้างล่างมาก
วันที่สอง : อ่าวโล๊ะดาลัม, หาดยาว
วันนี้เราจัดเตรียมชุดว่ายน้ำพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำตื้นเพราะเราจะตระเวนเล่นน้ำกัน
ยกเว้น"มีโชค"คงต้องนั่งๆนอนๆพ่อกับแม่เล่นน้ำอยู่บนริมชายหาด
สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือน้ำเปล่าเพราะต้องลงเล่นน้ำทะเลกลางแดดร้อนๆ
ที่เห็นขวดน้ำในรูปเราเอาน้ำจากที่พักพกไปด้วย
เพราะน้ำดื่มบนเกาะมีราคาสูงกว่าบนฝั่งประหยัดได้ก็ประหยัดครับ
อ่าวโล๊ะดาลัม (Loh Dalum Bay)
เริ่มจากชายหาดที่ อ่าวโล๊ะดาลัม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก
ชายหาดที่นี่กว้างมีลักษณะโค้งเว้า
ระดับน้ำไม่ลึกขนาดว่ายออกไปไกลยังสามารถยืนพ้นน้ำได้
แม้ว่าน้ำจะดูใสเมื่อมองจากข้างบนแต่เมื่อดูใต้น้ำก็ยังใสไม่มาก
หาดที่นี่มีแต่ทรายไม่มีก้อนหินหรือโขดหินและไม่เจอปลาเลยสักตัว
ที่สำคัญไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวคนอื่นมาเล่นน้ำเลยมีแต่เราสองคนทั้งอ่าว
จากนั้นเราเดินไปต่อกันที่
หาดยาว โดยใช้เส้นทางเดินเรียบชายทะเลที่มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร
อาจจะเดินไกลสักหน่อย
แต่ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถจ้างเรือหางยาวของชาวบ้านให้ไปส่งก็ได้
สำหรับผมกับภรรยาและแมวอีกหนึ่งตัวใช้วิธีเดินไปเรื่อยๆเหนื่อยก็นั่งพักชมวิวบ้าง
นั่งเล่นชิงช้าริมชายหาดบ้าง ตลอดเส้นทางไม่ได้มีทางเดินยาวตลอดจนถึง
หาดยาว แต่เป็นทางเดินริมฝั่งและเดินลงผ่านชายหาดบางช่วง
ภาพแผนที่ด้านล่างเป็นเส้นทางเดินไป หาดยาว แสดงด้วยเส้นสีดำที่มีวงกลม
หาดยาว (Long Beach)
พอมาถึง หาดยาว ก็หายเหนื่อยเลยครับ เพราะชายหาดดูสวยงามน้ำทะเลก็ใส
และก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำเหมือนเดิม
เราขี้เกียจเดินไปต่อก็เลยลงเล่นน้ำตรงริมชายหาดด้านทิศเหนือ น้ำทะเลที่
หาดยาว นี้มีความลึกมากกว่าและใสกว่าชายหาดที่
อ่าวโล๊ะดาลัม เล็กน้อย
และตรงจุดที่เราลงเล่นน้ำมีหินก้อนใหญ่หรือโขดหินใต้น้ำด้วย
ทำให้มีปลาชนิดต่างๆว่ายอยู่รอบๆตัวเราน่าตื่นเต้นดี
ถึงแม้ว่าความสวยงามใต้ท้องทะเลที่นี่อาจจะสวยสู้จุดดำน้ำที่
เกาะพีพีเล ไม่ได้แต่เท่านี้ผมก็พอใจแล้วครับ
เราว่ายน้ำไล่ดูปลากันเพลินจนเย็นและลืมนึกเผื่อเวลาตอนขากลับ
ทำให้เรากลับทางเดิมไม่ได้ก็เลยเปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทางเป็นถนนคอนกรีตที่ชาวบ้านใช้เดินทางเข้าไปในเมือง
และถนนเส้นนี้ก็ผ่านรีสอร์ทที่เราพักพอดี ทางขึ้นบนถนนจะอยู่ทางทิศใต้ของชายหาด
ช่วงเวลานั้นมืดแล้วและไม่ค่อยมีคนสัญจร ด้วยความที่ไม่รู้เส้นทางเราเดินไปสัก
800 เมตรพอเจอทางแยกก็เดินผิดทาง
จนไปเจอชาวบ้านขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเขาเลยอาสาขับไปส่งให้
พอถึงที่พักเราก็ให้ค่ารถที่มาส่งเป็นการตอบแทน
เส้นทางนี้ถ้าจะเดินคงจะเหนื่อยพอดูเพราะมีระยะทางประมาณ 2.5
กิโลเมตรและทางก็เป็นเนินเขาซะส่วนใหญ่ ภาพแผนที่ด้านล่างเป็นเส้นทางจาก
หาดยาว ไปยังรีสอร์ทที่พักของเรา แสดงด้วยเส้นสีดำที่มีวงกลม
วันที่สาม : อิสระเดินเล่นตามชายหาด, นั่งเรือข้ามฟากกลับภูเก็ต
เมื่อวานทั้งเล่นน้ำทั้งเดินเหนื่อจนขาลากเลยหลับยาวจนตื่นซะสาย
เราเช็คเอ้าท์ตอนเที่ยงแล้วเดินไปที่
ท่าเรือเกาะพีพี เพื่อนำกระเป๋าและสัมภาระไปเก็บไว้ที่
เรือเฟอรี่ ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่ก่อนแล้ว
จากนั้นก็มีเวลาไปหาข้าวกินและเดินเล่นตามชายหาดแถวๆ อ่าวโล๊ะดาลัม และ
อ่าวต้นไทร ซึ่งอยู่ไม่ไกลท่าเรือมากนัก จนได้เวลาลงเรือออกตอน 15:00 น.
และเดินทางมาถึง ท่าเทียบเรือรัษฎา เวลา 17:00 น. โดยสวัสดิภาพ
..^_^..