🚘 ผมขับรถยนต์ผ่านอำเภอ ภูเรือ จังหวัด เลย มองเห็นป้ายบอกทางไปยัง
อุทยานแห่งชาติภูเรือ เลยถามภรรยาเล่นๆว่าเราแวะเที่ยวที่นี่และนอนพักสักคืนดีไหม
ภรรยาตอบอย่างจริงจังว่า“ได้เอาสิ” ผมก็ไม่นึกว่าภรรยาจะเอาจริง
แต่ในเมื่อเธอต้องการผมก็ไม่ขัดใจ เพราะเราก็ยังไม่เคยมาเที่ยวที่นี่เลยสักครั้ง เห็นในแผนที่มี สถานที่ท่องเที่ยว เยอะมาก แต่ทริปนี้เรานอน⛺ กางเต็นท์ แค่คืนเดียวคงจะเที่ยวไม่หมด
อุทยานแห่งชาติภูเรือ (Phu Ruea National Park)
มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงมีแนวทิวเขาสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม มียอดเขา
ภูเรือ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.365 กิโลเมตร
เป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศ มีป้ายวลีบอกว่า “สุดหนาวในสยาม”
ถึงแม้จะเป็นภูเขาสูงก็จริงแต่เส้นทางถนนที่ขึ้นไปบนยอดเขา
ก็ไม่ได้มีความชันมากนักสามารถขับรถได้อย่างสบายๆ
จากถนนใหญ่ขับรถขึ้นภูเขาใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึง
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 1 (ที่ทำการอุทยาน) ซึ่งบริเวณนี้มี ลานกางเต็นท์
และ ร้านอาหาร แต่เรายังจะไม่พักตรงนี้เพราะข้างบนยังมี ลานกางเต็นท์
อีกจุดหนึ่งเลยขอไปดูสถานที่ก่อนว่าเป็นอย่างไร
เราขับรถขึ้นไปอีกตามป้ายบอกทางชี้ไป ยอดภูเรือ จนมาถึง ด่านตรวจที่ 2
ซึ่งเป็นสามแยกไม่สามารถตรงไปได้ต้องเลี้ยวซ้ายอย่างเดียว บริเวณรอบๆนี้มี
ลานจอดรถอุทยานแห่งชาติภูเรือ ร้านค้าขายอาหารอยู่ติดกันหลายร้าน
และเป็นจุดจอดรถสองแถวรอรับ/ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นไปยัง ยอดภูเรือ
อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ จุดชมวิวผาโหล่นน้อย อีกด้วย
ตอนนี้เวลาเที่ยงวันกว่าๆกำลังหิวพอดีขอจอดรถลงไปหาข้าวกินกันก่อนเป็นอันดับแรก
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้วเราก็ไปเดินเที่ยวกันที่ ผาโหล่นน้อย (Lourn Noi Cliff)
ที่อยู่ห่างจากบริเวณร้านค้านี้เพียง 200 เมตร เส้นทางเดินไปยัง ผาโหล่นน้อย เป็น
เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ ผาโหล่นน้อย-ยอดภูเรือ (Lourn Noi Cliff-Phu
Ruea Peak Nature Trail) ระหว่างทางมีแยกเดินขึ้นไปยัง ยอดภูเรือ อีกประมาณ 650
เมตร ที่ ผาโหล่นน้อย นอกจากเป็น จุดชมวิวทิวเขา แล้วยังเป็น
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยงามอีกด้วย
หลังจากถ่ายรูปเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็กลับไปที่รถเพื่อไปยัง ลานกางเต็นท์
ต่อไป
จากลานจอดรถอุทยานแห่งชาติภูเรือที่เราลงไปกินข้าวขับเลยมาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
ก็ถึง ลานกางเต็นท์ ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน) พื้นที่สำหรับ
กางเต็นท์ จุดนี้โล่งกว้างดูบรรยากาศสวยงาม
สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้มากกว่าจุดแรกที่อยู่ในดงใต้ต้นสน
มีร้านค้าขายอาหารหลายร้าน และยังอยู่ใกล้กับน้ำตกอีกด้วย
ตกลงว่าคืนนี้เราจะนอนพักกันที่ ลานกางเต็นท์ (ภูสน) นี้โดยมีค่าพื้นที่กางเต็นท์
(เอาเต็นท์มาเอง) คนละ 30 บาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จอดรถ
สถานที่ประกอบอาหาร ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา ไฟฟ้าส่องสว่าง
เมื่อได้สถานที่ๆจะนอนในคืนนี้เรียบร้อยแล้วเราก็เดินไปเที่ยว น้ำตกหินสามชั้น
(Hin Sam Chan Waterfall) ที่อยู่ห่างจาก ลานกางเต็นท์ ประมาณ 300 เมตร
เส้นทางเดินเป็นพื้นที่ราบและไม่มีต้นไม้รกทำให้เดินได้สบาย
น้ำตกนี้มีขนาดเล็กมีชั้นหินอยู่ 3 ชั้น ด้านล่างก็เป็นแอ่งน้ำเล็กๆเช่นกัน
เนื่องจากเราไม่ได้ไปฤดูฝนทำให้ปริมาณน้ำที่ตกลงมามีน้อยมาก
แต่สังเกตเห็นความกว้างของสีดำคล้ำของหินแต่ละชั้นที่อยู่ตรงกลาง
ก็พอเดาได้ว่าในฤดูฝนก็น่าจะมีน้ำมากอยู่พอสมควร
แน่นอนอยู่ๆก็ตัดสินใจขึ้นมาพักทันทีโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน
ดังนั้นอาหารทุกมื้อที่อยู่บนอุทยานนี้เราก็ต้องซื้อกินที่ร้านค้ารวมถึงมื้อเย็นนี้ด้วย
หลังจากกินข้าวอาบน้ำแต่งตัวแล้วเราก็เข้านอนทันที
เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกบน ยอดภูเรือ
ซึ่งเป็นกิจกรรมหรือไฮไลท์หลักที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่
สำหรับคืนนี้นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์
วันถัดมาเราตื่นแต่เช้าขับรถไปยัง ลานจอดรถอุทยานแห่งชาติภูเรือ
เพื่อเดินไปขึ้นรถสองแถวขึ้นยอดภูเรือโดยคิดค่าบริการต่อคน ขาขึ้น 10 บาท ขาลง 10
บาท แต่หากใครอยากจะเดินออกกำลังกายไปด้วยในตอนเช้าๆ
ก็สามารถเดินขึ้นไปเองก็ได้เช่นกันโดยใช้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ
ผาโหล่นน้อย-ยอดภูเรือ ระยะทางประมาณ 900 เมตรจากจุดจอดรถยนต์
บน ยอดภูเรือ เป็นลานกว้างตกแต่งประดับสวนหย่อมด้วยต้นไม้ดอกและไม้ใบอย่างสวยงาม
มีจุดบอกอุณหภูมิตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่กับตัวเลขที่บอกว่าตอนนี้อากาศเย็นกี่องศาแล้ว
วันที่ผมกับภรรยาไปเป็นวันที่ท้องฟ้าเปิด ไม่มีหมอก ไม่มีเมฆ
มีแต่ดวงอาทิตย์กลมๆสีส้มหรือสีแสดที่โผล่ขึ้นมาจากหลังภูเขาอย่างสวยงาม
เราเดินเล่นถ่ายรูปจนแดดเริ่มแรงและท้องก็ร้องแล้ว
เลยกลับลงมาหาของกินที่ร้านค้าใกล้กับจุดจอดรถสองแถว
ระหว่างทางกลับลงเขาแวะจอดรถริมข้างทางดู หินเต่า (Hin Tao)
เป็นก้อนหินที่มีลักษณะรูปทรงคล้ายเต่า
อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ใน ตำบล หนองบัว อำเภอ ภูเรือ และ อำเภอ ท่าลี่
จังหวัด เลย ด้านทิศเหนือติดกับ สปป.ลาว สำหรับอัตราค่าบริการผ่านเขาอุทยาน
คนไทยผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็กคนละ 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่คนละ 200 บาท
เด็กคนละ 100 บาท รถจักรยานยนต์คันละ 20 บาท รถยนต์ 4 ล้อคันละ 30 บาท รถยนต์
6 ล้อคันละ 100 บาท และรถยนต์ไม่เกิน 10 ล้อคันละ 200 บาท
เวลาเปิด-ปิดอุทยาน 05:00 ถึง 20:00 น.
..^_^..