รีวิวแนะนำท่องเที่ยว จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta-Khian Ngo Viewpoint) ชมทะเลหมอก 360 องศาที่เขาค้อ (Sea of Mist at Khao Kho)

0
คุณมีแผนที่จะไปเที่ยวไหนในฤดูหนาวนี้บ้าง ถ้าไม่และไม่อยากไปไกลถึงภาคเหนือของไทยแต่อยากสัมผัสธรรมชาติและอากาศเย็นสบาย นั่งจิบกาแฟพร้อมกับชมวิวทะเลหมอกจากในเต็นท์ หรือจะดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินในที่เดียวกันแล้วละก็ ผมมีสถานที่หนึ่งที่จะแนะนำ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอเขาค้อซึ่งเป็นอำเภอยอดนิยมสำหรับใครหลายๆคนและยังมีความเป็นธรรมชาติที่ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย




ผมกำลังพูดถึง "จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta-Khian Ngo Viewpoint)" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับชมวิวมุมสูงที่ตั้งอยู่บน ภูเขาตะเคียนโง๊ะ (Ta-Khian Ngo) ในตำบลหนองแม่นา, เขาค้อ, เพชรบูรณ์, ประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่สำหรับดูทะเลหมอก(sea of mist)ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภอเขาค้อ โดยที่คุณสามารถดูวิวทิวทัศน์ทะเลหมอก(sea of mist)ได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว



ผมและภรรยาออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครตอนเช้าตรู่ เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินหรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านสระบุรีโดยใช้ทางเลี่ยงเมือง ถึงทางแยกพุแค (Phu Khae Junction) แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสระบุรี-หล่มสักหรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 แล้วมุ่งหน้าตรงดิ่งไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงทางแยกขึ้นอำเภอเขาค้อให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2258 จากนั้นก็วิ่งตรงไปเรื่อยๆจนถึงทางแยกรื่นฤดี (Ruen Ruedee Intersection)ก็ให้ตรงไปอีกประมาณ 8.5 กิโลเมตรก็ถึงตีนเขา ที่ทางเข้ามีป้ายบอกชัดเจนไม่ต้องกลัวหลงทาง เรามาถึงที่นี่กันในตอนเที่ยงใช้เวลาเดินทางราวๆ 5 ถึง 6 ชั่วโมง
เขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta-khian Ngo)
เขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta-khian Ngo)
ป้ายบอกทางจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2258
ป้ายบอกทางจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2258
ทางเข้าขึ้นจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ทางเข้าขึ้นจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ถนนจากตีนเขาขึ้นไปบนยอดเขาเป็นถนนปูนซีเมนต์และมีระยะทางประมาณ 400 เมตร รถตู้หรือรถยนต์ขนาดเล็กสามารถขึ้นได้ เราขึ้นไปถึงบนยอดเขาแล้วเราก็จะพบกับศาลาตั้งอยู่ตรงกลางยอดเขา พอเราจอดรถเสร็จเจ้าหน้าที่ก็เดินมาคุยกับเรา เราก็แจ้งกับเขาว่าจะขอพักค้างแรมโดยใช้เต็นท์และเครื่องนอนของเราเอง เจ้าหน้าที่ก็แนะนำบริเวณที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวสามารถตั้งเต็นท์ได้ จากนั้นเราก็เลือกบริเวณที่ต้องการตั้งเต็นท์ของเรา
ถนนขึ้นจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ถนนขึ้นจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ศาลาบนยอดเขาตะเคียนโง๊ะ
ศาลาบนยอดเขาตะเคียนโง๊ะ

สำหรับค่าบริการต่างๆในการใช้สถานที่นี้เป็นดังนี้

  • ขึ้นเที่ยวชม คิดราคาท่านละ 10 บาท (ไม่พักค้างแรม)
  • พักค้างแรมโดยใช้เต็นท์ของตัวเอง คิดราคา 100 บาทต่อคนต่อคืน (ไม่คิดค่าขึ้นเที่ยวชม)
  • พักค้างแรมโดยเช่าเต็นท์และเครื่องนอนของเอกชน(สามารถนอนได้ถึง 3 คน) คิดราคาเต็นท์ละ 450 บาทต่อคืน (ไม่คิดค่าขึ้นเที่ยวชม)
  • เช่าหมอน 10 บาท, ผ้าห่มและผ้ารองนอน 50 บาท ต่อชิ้นต่อคืน 
  • เช่าผ้าใบสำหรับคลุมเต็นท์ คิดราคา 50 บาทต่อผืนต่อคืน
  • เช่าผ้าใบสำหรับปูรองพื้น คิดราคา 50 บาทต่อผืนต่อคืน
  • ที่ศาลามีเครื่องดื่มกาแฟและของทานเล็กน้อยขายเท่านั้น
  • มีเต้ารับไฟฟ้าให้ในบริเวณที่ตั้งเต็นท์ ไม่คิดเงินเพิ่มแต่แบ่งใช้กับเต็นท์ข้างๆ



นักท่องเที่ยวสามารถตั้งเต็นท์ได้เกือบรอบทิศบนยอด เขาตะเคียนโง๊ะ (Ta-khian Ngo) เราเลือกติดตั้งเต็นท์ในพื้นที่หมายเลข A5 ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเพราะเราต้องการดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า สำหรับทางทิศตะวันออกนี้ผมแนะนำให้เลือกพื้นที่หมายเลข A5 ถึง A8 เพื่อจะได้ทัศนวิสัยที่ไม่มีอะไรบดบัง

พื้นที่ตั้งเต็นท์หมายเลข A5
พื้นที่ตั้งเต็นท์หมายเลข A5
พื้นที่ตั้งเต็นท์หมายเลข A5
พื้นที่ตั้งเต็นท์หมายเลข A5
เราตั้งเต็นท์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินดูรอบๆกันสักหน่อย ที่ระดับเดียวกับที่เราตั้งเต็นท์เดินไปทางทิศเหนือจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ ห้องน้ำมีทั้งหมด 4 ห้องโดยสามารถอาบน้ำได้ทั้ง 4 ห้องและ 3 ใน 4 ห้องจะเป็นห้องสุขาด้วย จากนั้นเราก็เดินไปดูป้ายที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่สำหรับให้ถ่ายรูปและวิวทิวทัศน์ของทิศตะวันตก ช่วงเวลาที่เราไปนั้นเป็นช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว ทำให้ท้องฟ้ามีเมฆมากและไม่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้เลย ก่อนเวลาเย็นเราต้องออกไปหาซื้ออาหารและกลับมากินที่เต็นท์ เนื่องจากไม่มีร้านอาหารที่บนเขานี้
ห้องน้ำบนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ห้องน้ำบนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ป้ายรัก 360 องศาบนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ป้ายรัก 360 องศาบนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
วิวทิวทัศน์ยามเย็นทางทิศตะวันตก
วิวทิวทัศน์ยามเย็นทางทิศตะวันตก
มาชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้ากันดีกว่า เราพักค้างแรมที่นี่กัน 2 คืนและได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่แตกต่างกันทั้ง 2 วัน เช้าวันแรกไม่มีหมอกแม้แต่นิดเดียวแต่เช้าวันที่สองมีหมอกมากมายไหลไปไหลมาเหมือนท้องทะเล การเดินทางมาในครั้งนี้เหมือนกับการยิงนก 2 ตัวด้วยลูกปืนนัดเดียว ช่างเป็นภาพภูมิทัศน์ที่สวยงามจริงๆ ระหว่างที่เรานั่งชมวิวผมก็ดื่มกาแฟและทานอาหารเช้าร่วมกับภรรยาอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินวนรอบเพื่อถ่ายรูปเก็บบรรยากาศยามเช้ากัน
ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะในวันแรก
คู่รักนอนชมวิวทิวทัศน์จากในเต็นท์
คู่รักนอนชมวิวทิวทัศน์จากในเต็นท์
ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะในวันที่สอง
ทะเลหมอกที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ถัดมาอีกครึ่งชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น หมอกก็ไหลมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ชมทะเลหมอกทางทิศตะวันตกจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ชมทะเลหมอกทางทิศตะวันตกจากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ผมและภรรยาบนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ผมและภรรยายืนอยู่หน้าเต็นท์บนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
เขาและเธอนั่งถ่ายรูปหน้าเต็นท์บนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
เขาและเธอนั่งถ่ายรูปหน้าเต็นท์บนจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
สำหรับทางทิศตะวันออกนี้เราสามารถมองเห็นเขาย่า(Khao Ya) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ภาพถ่ายของเราดูสวยงามมากยิ่งขึ้น และหมอกทางทิศนี้ก็จะมีมากบ้างและน้อยบ้างสลับกันไป ซึ่งแตกต่างกับทางทิศตะวันตกที่จะมีหมอกหนาแน่นเกือบตลอดเวลา นอกจากการดูทะเลหมอกแบบ 360 องศาแล้วที่นี่ยังสามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพภูมิทัศน์ด้านล่างที่มีรถยนต์เปิดไฟวิ่งมาตามถนนหรือภาพดวงดาวบนท้องฟ้า



ภาพวิวภูมิทัศน์ทางทิศตะวันออกและภูเขาย่า
ภาพวิวภูมิทัศน์ทางทิศตะวันออกและภูเขาย่า
ภาพภูมิทัศน์ทางทิศตะวันออกกับแสงไฟยามค่ำคืน
เราชมธรรมชาติกันจนประมาณเกือบ 9 โมงเช้า หมอกก็เริ่มจางหายไปพร้อมกับแสงแดดที่เริ่มร้อนแรงขึ้น เราเริ่มถอนเต็นท์และเครื่องนอนเก็บเข้ารถยนต์ของเรา หลังจากผมและภรรยาอาบน้ำเสร็จเราก็ออกจากเขาตะเคียนโง๊ะ(Khao Ta-Khian Ngo)โดยทันที เพราะจะได้ถึงกรุงเทพไม่ช้าจนเกินไป ^_^
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)