ก่อนที่จะย่างเข้าฤดูฝนอย่างเต็มตัว ผมและภรรยาพร้อมกับเพื่อนๆอีกสองท่านก็ถือโอกาสเปิดทริปท่องเที่ยวเดินทางไปพักที่ต่างจังหวัดกันสัก 2 คืน เพื่อเป็นการพักผ่อนและชาร์จแบตเพิ่มพลังให้กับตัวเองไปด้วย หลังจากที่ทำงานกันมาอย่างขะมักเขม้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แน่นอนครับพวกเราได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เลือกที่จะไปเที่ยวทะเลที่ชายหาดปราณบุรี เพราะอะไรนะหรือครับก็พวกเราทั้งหมดนี้ยังไม่เคยไปพักผ่อนนอนเล่นที่อำเภอปราณบุรีกันมาก่อนเลยสักคน
เราเลือกพักกันที่ โกลเด้น ไพน์ บีช รีสอร์ท (Golden Pine Beach Resort) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางจากเมืองหลวงกรุงเทพมหานครประมาณสามชั่วโมงถึงสามชั่วโมงครึ่งด้วยรถยนต์ส่วนตัวครับ ด้านหน้ารีสอร์ทที่พักจะอยู่ติดกับถนนเลียบชายหาดปากน้ำปราณ แต่ถ้าเข้ารีสอร์ทด้วยรถยนต์จะต้องใช้ซอยด้านข้างใกล้ๆเพื่อเข้าไปยังลานจอดรถของทางรีสอร์ทที่อยู่ด้านหลัง มีป้ายบอกทางเห็นได้เด่นชัดครับ
ซอยทางเข้าด้านหลังจะเป็นดินผสมกับหินกรวด เวลาที่ฝนตกก็ทำเอาทางเข้านี้เฉอะแฉะไปเหมือนกัน พอเข้ามาแล้วลานจอดรถจะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนทางเข้ารีสอร์ทจะอยู่ทางขวามือ เมื่อเราเดินเข้ารีสอร์ทก็จะพบกับทางเดินแบบธรรมชาติที่ตกแต่งด้วยหินแกรนิตและรายล้อมไปด้วยสระน้ำ เลี้ยวซ้ายเพื่อไปเช็คอินที่รีเซพชั่นกันก่อน พร้อมกับการต้อนรับด้วยน้ำดื่ม Welcome Drink ส่วนห้องพักที่เราจองไว้เพื่อจะมารีวิวแนะนำในครั้งนี้ก็เป็นห้อง Garden View Superior (รวมอาหารเช้า) ซึ่งจะอยู่อีกตึกหนึ่ง พอลงทะเบียนเสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องพักกันเลยอยู่ใกล้ๆกันครับ
ด้านกลางห้องจะเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่สำหรับนอนสองคน พร้อมโต๊ะข้างเตียงและโคมไฟทั้งสองด้าน ส่วนด้านซ้ายมือถัดจากเตียงนอนก็เป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งตัวอยู่ตรงมุมห้อง มุมขวามือของห้องจะมีโต๊ะเก้าอี้และโคมไฟตั้งพื้นสำหรับนั่งพักผ่อนภายในห้อง แต่ถ้าอยากรับลมทะเลเย็นๆจากภายนอก ก็จะมีระเบียงพร้อมเก้าอี้สองตัวให้ได้นั่งและชมสวนรับลมกันด้วยครับ แม้ว่าห้องที่ผมเลือกจะเป็นห้องแบบวิวสวน แต่เมื่อออกไปยืนที่ระเบียงก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เหมือนกัน
กลับเข้ามาในห้องไปดูห้องน้ำกัน ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือตอนที่เราเปิดประตูห้องเข้ามา ข้างในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างและจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสามมุม ประกอบไปด้วย มุมชักโครกมีผ้าเช็ดตัวให้สองผืน มุมอาบน้ำจะมีประตูกระจก และมุมอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ บนเคาท์เตอร์ก็จะมีผ้าเช็ดหน้าสองผืน แก้วน้ำสองใบ ขวดใส่สบู่เหลวและแชมพูสระผมอย่างละสองขวด หมวกคลุมผมอาบน้ำสองกล่อง คัตตั้นบัดส์สองซอง และสบู่ล้างมือสองก้อนครับ
ออกมานอกห้องไปเดินชมสวน และบริเวณส่วนต่างรอบๆภายในรีสอร์ทกันดีกว่า ที่นี่ไม่กว้างเท่าไหร่เดินนิดเดียวก็หมดแล้วครับ รีสอร์ทที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยนะครับเราเดินไปสำรวจตามที่ป้ายบอกทางบอกเอาไว้ สระว่ายน้ำที่นี่จะยกสูงจากพื้นและอยู่ที่ด้านหน้าของรีสอร์ท ติดกับถนนใกล้กับชายหาด สระน้ำมีขนาดกว้างมาก มีทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก เวลาเล่นน้ำในสระก็สามารถชมวิวทะเลได้ด้วยช่างโรแมนติกเสียจริงๆ
แต่ถ้าใครคิดว่าไปทะเลก็ต้องเล่นน้ำทะเล จะมาเล่นน้ำในสระว่ายน้ำมันก็เหมือนกับว่าเรามาไม่ถึงทะเลนะสิ ไม่ต้องห่วงครับถ้าอยากจะเล่นน้ำทะเลที่นี่ก็เล่นได้ เพียงเราเดินข้ามถนนที่ด้านหน้ารีสอร์ทและเดินลงบันไดที่อยู่หน้าหาด เราก็จะพบกับชายหาดแล้วครับ ชายหาดบริเวณนี้กว้างและมีความชันน้อยมากสามารถเล่นน้ำได้สบายๆ แนะนำให้มาเล่นในตอนเช้าเพราะว่าน้ำทะเลยังขึ้นไม่สูงมากนัก
สำหรับอาหารเช้าเราก็จะมาทานกันที่ห้องอาหารของรีสอร์ท ซึ่งเป็นห้องแบบเปิดโล่งรับลมธรรมชาติเย็นๆในตอนเช้าครับ เนื่องจากวันที่เรามาเป็นวันธรรมดาที่มีคนมาพักน้อยไม่เกิน 20 คน ทางรีสอร์ทจึงไม่ได้จัดบุฟเฟต์ให้ แต่จะมีเมนูให้เราสั่งอาหารเป็นจานแทนโดยที่สั่งได้คนละ 1 ชุดเท่านั้นครับ ผมสั่งชุดอเมริกันเบรคฟาสซึ่งก็จะมีแฮม ไส้กรอก และก็ไข่ ส่วนภรรยาผมสั่งข้าวผัดหมูครับ ในชุดกาแฟและขนมปังปิ้งนั้นจะมีให้คนละ 1 ชุดเช่นกันครับ สุดท้ายนี้ผมก็ต้องขอลากันไปเพียงเท่านี้สวัสดีครับ...^_^