รีวิว สถานที่ท่องเที่ยว 5 วัน 4 คืน "รักแรก...หมดใจ...ในฮอกไกโด (Hokkaido-Snow-FirstLove)" [EP.1/6]

💭ความฝันอย่างหนึ่งของผมกับภรรยาฝันเอาไว้ว่า ซักวันหนึ่งเราจะไปยืนกันอยู่ท่ามกลาง❄️หิมะที่กำลังโปรยปรายจากท้องฟ้า ลงมาปกคลุมพื้นดินและต้นไม้จนขาวโพลนไปหมด ซึ่งที่ผ่านมาเราเองก็เคยเดินทางไป ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ในช่วงฤดูหนาวอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยเจอบรรยากาศตามที่วาดฝันไว้สักครั้งเดียว หลังจากดูภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์แฟนกันแค่วันเดียว (One Day) เราก็เลยตั้งใจไปเที่ยว🇯🇵ญี่ปุ่น (Japan) กันอีกครั้งและเลือกไปที่ ❝ฮอกไกโด (Hokkaido)❞ แล้วมาดูกันว่าเราสองคนในทริปนี้ จะโชคดีเจอหิมะตกกันครั้งแรกหรือไม่

Music Video 1

Music Video 2

เราเตรียมการวางแผนทริปนี้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพราะตั้งใจจะไปเที่ยวกันเองโดยที่ไม่ได้ไปกับทัวร์ และก็ไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่นด้วย ผมจะทิ้งลิ้งค์ที่ใช้ในการวางแผนเดินทางโดยระบบขนส่งใน ฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า รถบัส และ รถไฟฟ้าประจำเมือง(รถราง) อยู่ในส่วนเมนูด้านข้างของเว็บบล็อกนี้ และแล้วเมื่อถึงช่วงโปรโมชั่นลดราคาตั๋วเครื่องบิน BIG SALE มาถึง เราก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินในราคาตำ่ (Low Fare) พร้อมกับบริการเสริม “แพ็คสุดคุ้ม” ที่ประกอบไปด้วย ประกันภัยการเดินทาง, อาหารร้อน 1 ที่, น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. และสามารถเลือกที่นั่งได้ด้วยจะได้เลือกนั่งริมหน้าต่าง จากนั้นก็จองที่พักต่อเลยตามที่ได้วางแผนเอาไว้ ที่เหลือก็หาเวลาไปแลก💴เงินเยนที่ Superrish และหาซื้อรองเท้าลุยหิมะและถุงมือกันหนาวที่ Decathlon

ในช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูหนาวปลายเดือน มกราคม พ.ศ.2563 หรือ ค.ศ.2020 ซึ่งเป็นปีแรกที่ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ใหม่ จากเดิม 8% ขึ้นเป็น 10% ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในทริปของเรา เช่น ค่าเดินทาง (ในญี่ปุ่น), ค่าอาหาร จึงเป็นราคาใหม่ในปี พ.ศ.2563 และหลังจากที่เรากลับจาก ญี่ปุ่น มาถึงประเทศ ไทย ได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ญี่ปุ่น ก็ออกประกาศล็อคดาวน์ปิดประเทศทันที อันเนื่องมาจากการเริ่มระบาดอย่างรุนแรงของ🦠ไวรัสโควิด-19 พอดีถือว่าทริปนี้เราสองคนโชคดีมาก

✈เราเริ่มออกเดินทางจาก สนามบินนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang Airport, DMK) โดยสายการบิน AirAsia X เที่ยวบิน XJ620 ในเวลา 02:10 น. ตามเวลา ประเทศไทย พอเครื่องบินบินขึ้นไต่ระดับคงที่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็เดินแจกเอกสารใบเข้าเมืองให้กับผู้โดยสาร เราก็กรอกข้อมูลให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเลย ดูวิธีเขียนได้ตามตัวอย่างในบทความนี้ "แนะนำวิธีเขียนใบตรวจคนเข้าเมือง (JAPAN DISEMBARKATION CARD) และใบศุลกากร (CUSTOMS DECLARATION FORM) สำหรับผู้เดินทางไปญี่ปุ่น" เพราะหลังจากนี้เราจะนอนหลับยาวจนถึงเช้าจะได้ไม่ลืมหรือเร่งรีบกรอกในภายหลัง

นั่งหลับมาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งก็ต้องตื่นเพราะแสงจากดวงอาทิตย์ที่ขึ้นพ้นขอบฟ้าแล้ว หลังจากนั้นอีกประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเจ้าหน้าที่ก็เดินแจกอาหารสำหรับผู้โดยสารที่ได้สั่งจองไว้ก่อนแล้ว และถ้าใครถือ 💳บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ AirAsia ก็สามารถแสดงบัตรใช้สิทธิแลกฟรีเครื่องดื่มราคา 60 บาทเพิ่มได้อีก มื้อเช้านี้เรา 2 คนสั่งอาหารเช้าเป็น ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ (สไตล์ญี่ปุ่น)... เที่ยวบินนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที ก็มาถึง สนามบินนานาชาติชิโตะเซะแห่งใหม่ (New Chitose Airport, CTS) หรือจะเรียก ชินชิโตะเซะ (Shin-Chitose Kūkō) ก็ได้เหมือนกัน ในเวลา 10:20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำการปรับเปลี่ยนเวลา⌚นาฬิกาให้เร็วขึ้น 2 ชั่วโมงเพราะเวลาที่ประเทศ ญี่ปุ่น เร็วกว่าประเทศ ไทย

เครื่องบินทำการจอดเทียบ อาคารผู้โดยสารต่างประเทศ (International Terminal Building) ที่ Gate 68 เมื่อเดินออกจากงวงแล้วให้เลี้ยวขวาตามป้ายลูกศร Arrivals เพื่อไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจผ่านเสร็จก็ไปรับกระเป๋าเดินทางของเราโดยดูเที่ยวบินของเราที่ป้าย Baggage Claim Information ซึ่งจะบอกว่าต้องไปเอากระเป๋าสัมภาระที่สายพานลำเลียงไหน ในกรณีนี้กระเป๋าของเราต้องไปรอเอาที่สายพานลำเลียง B เมื่อได้กระเป๋าแล้วก็ไปหาห้องน้ำใกล้ๆเพื่อล้างหน้าแปลงฟัน และแต่งตัวใส่ชุดกันหนาวให้พร้อมก่อนเดินออกไปยังโถงขาเข้า (Arrival Lobby) ซึ่งขณะนี้เราจะอยู่ที่ชั้น 2F ของอาคารผู้โดยสารต่างประเทศ

ให้แหงนมองหา👀ป้ายลูกศร JR Train ถูกต้องแล้วครับเราจะเดินทางเข้าเมือง ซัปโปโร (Sapporo) ด้วยรถไฟฟ้า เพราะโรงแรมที่เราจะเข้าพักอยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้ามากกว่าเส้นทางรถบัส เดินไปได้หน่อยเจอรูปปั้น โดราเอมอน (Doraemon) ตัวใหญ่ตั้งอยู่กลางทางเดินเลยหยุดถ่ายรูปสักหน่อย จากนั้นเดินตามป้าย JR Train จากอาคารผู้โดยสารต่างประเทศผ่านทางเชื่อมตึกไปยัง อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal Building) จะเห็นป้ายลูกศรชี้ทางลงบันไดเลื่อนไป สถานีรถไฟฟ้า NEW CHITOSE AIRPORT ที่ชั้น B1F แต่ช้าก่อนข้างหน้ามีลิฟท์ซึ่งสามารถลงไปชั้น B1F ได้เหมือนกันเพราะฉะนั้นลงลิฟท์ดีกว่าครับรอไม่นานด้วย

พอลงถึงชั้น B1F ก็จะเป็น สถานีรถไฟฟ้า NEW CHITOSE AIRPORT [AP15] เราก็ไปซื้อตั๋วที่ ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (Tickets Vending Machine) เพื่อขึ้น รถไฟฟ้า JR Hokkaido Train สาย Chitose Line โดยวิธีซื้อตั๋วรถไฟฟ้าสามารถไปดูบทความได้ที่ “แนะนำ วิธีซื้อตั๋วขึ้นรถและจ่ายค่าโดยสารของบริการระบบขนส่งมวลชนในเมืองซัปโปโร (JR, Subway, Streetcar, Bus in Sapporo)” เนื่องจากโรงแรมที่พักของเราอยู่ใกล้กับ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม Subway Tozai Line ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วไปลง สถานี SAPPORO(JR) แต่เราจะลงกันก่อนที่ สถานี SHIN-SAPPORO(JR) [H05] ซึ่งสถานี JR นี้จะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินปลายทาง สายสีส้ม Subway Tozai Line ที่ สถานี SHINSAPPORO(SUBWAY) [T19] ทำให้สามารถประหยัดเวลาและค่าเดินทางลงได้อีกด้วย

เมื่อซื้อตั๋วเสร็จในราคาค่าโดยสารคนละ 880 เยน (ราคาที่ไม่ได้จองที่นั่ง) ก็เดินผ่านประตูทางเข้าแล้วลงบันไดก็เจอรถไฟฟ้าจอดอยู่รางที่ 2 (Track 2) พอดี เดินเข้าไปดูป้ายด้านข้างตู้โดยสารรถไฟเขียนว่า “RAPID AIRPORT FOR SAPPORO” แสดงว่าขบวนนี้เป็นขบวนรถ Airport Express Train ที่วิ่งไปสุดที่ สถานี SAPPORO(JR) ก็หมายความว่าเราสามารถขึ้นรถไฟฟ้าขบวนนี้ไปได้ หรือถ้าเขียนว่า “RAPID AIRPORT FOR OTARU” ก็สามารถไปได้เหมือนกันครับ ขบวนรถ Airport Express Train (Rapid Airport) วิ่งจาก สถานีสนามบินไปถึง สถานี SAPPORO(JR) จะแวะจอดเพียง 6 สถานีเท่านั้น (รวม สถานี SHIN-SAPPORO(JR) [H05] ที่เราจะลงด้วย) และใช้เวลาเพียง 38 นาที แต่ถ้าเรามาขึ้นรถไฟฟ้าในตอนเช้าก่อนเวลา 08:00 น. จะมีแต่ขบวนรถ Local Airport ให้บริการเท่านั้นซึ่งจะแวะจอดถึง 14 สถานี ในราคาค่าโดยสารที่เท่ากันแต่ใช้เวลาเดินทางมากกว่าคือประมาณ 55 นาที

หลังจากดูขบวนรถไฟฟ้าว่าไปได้แล้วก่อนจะขึ้นก็ให้ดูป้ายที่พื้นชานชลาอีกทีว่า ตู้โดยสารตรงป้ายนี้เป็นตู้โดยสารสำหรับ ผู้ที่ไม่จองที่นั่ง (Non-reserved seat) หรือไม่ ถ้าใช่ก็ให้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วก็หาที่นั่งได้เลยครับ เพราะจากสนามบิน สถานี NEW CHITOSE AIRPORT [AP15] เดินทางไปถึง สถานี SHIN-SAPPORO(JR) [H05] จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 28 นาที และต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการเริ่มผจญภัยใน ฮอกไกโด ครั้งแรกของเราสองคน โปรดรอติดตามตอนต่อไปห้ามพลาดนะครับ ...🏁

อ่านรีวิวตอนที่ 👉 EP.1/6, EP.2/6, EP.3/6, EP.4/6, EP.5/6, EP.6/6