รีวิวแนะนำท่องเที่ยวโอซาก้าชมซากุระและยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ด้วยตัวเองไม่ง้อทัวร์ 5 วัน 4 คืน (Amazing OSAKA w/ Sakura & USJ) EP4/5

0
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
Shutterstock photo ID: 1088280659
โชคดีดอกซากุระกำลังเบ่งบานในช่วงนี้แม้จะยังไม่ถึงช่วงบานเต็มที่ก็ตาม วันนี้เราจะไปชม ดอกซากุระ หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าเทศกาล ฮะนะมิ (Hanami) ในเมือง โอซาก้า มีสถานที่ชมดอกซากุระอยู่หลายแห่ง เช่น สวนสึรุมิ เรียวคุจิ (Tsurumi Ryokuchi Park), สวนลำรึกงานเอ๊กซ์โป 70 (Expo 70 Commemorative Park) หรือ สวนเคมะ ซากุระโนมิยะ (Kema Sakuranomiya Park) เป็นต้น โดยที่กล่าวมาข้างต้นนี้เราจะไม่ไปแต่เราจะไปที่ ปราสาทโอซาก้า กันครับ เพราะนอกจากจะชมดอกซากุระแล้วเรายังเดินไปชม พิพิธภัณฑ์ ปราสาท โอซาก้า ได้ด้วย

เช้านี้เราออกไปซื้ออาหารเช้าที่ร้านสะดวกซื้อ FamilyMart ข้างโรงแรมก่อน และกลับมาทานที่ห้อง Common room ของโรงแรมเพราะง่ายและสะดวกดี ที่สำคัญหากทานเสร็จแล้วรู้สึกปวดท้องอยากถ่ายหนักถ่ายเบา ที่ชั้นล่างของโรงแรมก็มีห้องสุขาให้พร้อม ไม่ต้องไปวิ่งวนหาห้องน้ำสาธารณะให้วุ่นวายและอาจจะไม่สะอาดอีกด้วย

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

ในสองวันสุดท้ายนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้าด้วย บัตร โอซาก้า อะเมซิ่ง พาส (Osaka Amazing Pass) หรือเรียกสั้นๆว่า OAP แบบ 2-Day Pass ที่ซื้อมาจากประเทศไทยไว้ก่อนแล้ว หนึ่งชุดราคา 3,300 Yen ประกอบด้วยบัตรแข็ง 1 ใบและ Guidebook 1 ฉบับ ซึ่งเป็นชุดปี 2017 ที่มีอายุให้ใช้งานได้ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2017 ถึง 30 เม.ย. 2018 บัตรนี้สามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า, รถราง และรถซิตี้บัส ได้โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 2 วันติดกันนับตั้งแต่วันเริ่มใช้บัตรครั้งแรก และยังสามารถใช้เป็นบัตรผ่านประตูเข้าสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยมีทั้งแบบเข้าฟรีหรือแบบลดราคาแล้วแต่สถานที่นั้นๆกำหนดไว้ นอกจากใช้ในการเดินทางและบัตรผ่านประตูแล้วยังใช้เป็นส่วนลดกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่ร่วมรายการด้วย

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

เราออกเดินทางไปยัง สวน นิชิโนมารุ (Osaka Castle Nishinomaru Garden) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาทโอซาก้า โดยไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีนำ้ตาล Sakaisuji Line (K19) ที่สถานี DOBUTSUEN-MAE ไปลงสถานี SAKAISUJI-HOMMACHI (K15) จากนั้นเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวแก่ Chuo Line (C17) ไปลงสถานี TANIMACHI YON(4)-CHOME (C18) เดินออกทางขึ้นลงที่ 1A แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตรก็ถึงทางเข้าปราสาทโอซาก้าทางด้าน ประตู โอเตะม่อน (Otemon Gate) ระหว่างทางเจอต้นซากุระใกล้ทางเข้าปราสาทสวยงามมากมาย เราอยู่ถ่ายรูปตรงนี้เกือบครึ่งชั่วโมงถึงไปต่อ

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง


จากประตู โอเตะม่อน เราเดินตรงไปยังทางเข้าสวน นิชิโนมารุ ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งที่สวนนี้มีค่าผ่านประตูปรกติคนละ 200 Yen แต่เราเข้าฟรีได้โดยการยื่นบัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส (OAP) ให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วทำการสแกนบาร์โค้ดบนบัตรเท่านั้น ข้างในสวนมีพื้นที่กว้างมากมีต้นซากุระอยู่เป็นร้อยๆต้นมากมายเดินเลือกได้เลยว่าจะถ่ายกับต้นไหน และคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่ในสวนนี้เป็นที่ปิกนิก นั่งเล่น นอนเล่น และกินข้าวกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
Shutterstock photo ID: 1088447657

เราตื่นตาตื่นใจเดินถ่ายรูปอยู่ในสวนดอกซากุระกว่า 1 ชั่งโมงครึ่งจนเกือบลืมไปว่ายังต้องมีอีกหลายที่ๆต้องไป เราออกจากสวน นิชิโนมารุ เดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตรก็ถึง พิพิธภัณฑ์ ปราสาท โอซาก้า (Osaka Castle Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในหอคอยหลักของปราสาทโอซาก้า แดดวันนั้นแรงมากแต่ไม่รู้สึกร้อนเพราะอุณหภูมิขณะนั้นประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้น เดินถ่ายรูปรอบๆสักหน่อยก่อนเข้าไปยังหอคอย

ในหอคอยปราสาทโอซาก้าถูกดัดแปลงเป็นจุดชมวิวเมืองโอซาก้าแบบพาโนรามา 360 องศา และพิพิธภัณฑ์บอกเรื่องราวประวัติศาสตร์ของปราสาทโอซาก้าในอดีต การเข้ามาชมภายในหอคอยจะมีค่าผ่านประตูปรกติคนละ 600 Yen แต่สำหรับผู้ที่ถือบัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส (OAP) อย่างภรรยากับผมก็สามารถเข้าได้ฟรีเพียงแค่ให้เจ้าหน้าที่สแกนบัตรเหมือนเดิมครับ ภายในหอคอยมีลิฟท์ให้บริการด้วยแนะนำให้ใช้ลิฟท์ขึ้นไปก่อนจากนั้นค่อยเดินลงมาชมทีละชั้น

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

ชมหอคอยหลักปราสาทโอซาก้าเสร็จแล้วเราก็เดินไปที่ทางขึ้นลงที่ 3-B ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MORINOMIYA ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตรเล่นเอาเมื่อยล้าเหมือนกัน ระหว่างทางเดินก็รายล้อมไปด้วยต้นซากุระตลอด 2 ข้างทางเยอะมาก ภรรยาและผมหยุดสลับกันถ่ายรูปเป็นระยะๆ หากมีเวลามากกว่านี้ก็อยากจะปูเสื่อนอนชมดอกซากุระกับคนญี่ปุ่นที่ในสวนแถวนั้น

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

ตามแผนที่วางไว้ที่ต่อไปเราจะไปทานอาหารเที่ยงที่ย่านโดทงโบริ แต่คงต้องเปลี่ยนแผนเพราะเราใช้เวลาเกินเลยมาพอสมควร เราจะไปต่อที่ห้าง HEP FIVE กันเลยโดยขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียวแก่ Chuo Line (C19) ไปลงที่สถานี HOMMACHI (C16) แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีแดง Midosuji Line (M18) ไปลงที่สถานี UMEDA (M16) เดินออกตามป้าย "HEP FIVE"


จากที่เมื่อช่วงเช้าเราเดินกันเยอะมากทำให้แผลเดิมที่นิ้วเท้าภรรยาผมเจ็บระบมขึ้นมาอีก เราจึงตัดสินใจเดินหาซื้อรองเท้าใหม่กันอยู่นาน เลยไม่ได้ไปขึ้นเครื่องเล่นฟรีด้วยบัตร OAP ที่ HEP FIVE Ferris Wheel (ราคาปรกติ 500 Yen) และ Umeda Joypolis Wild River (ราคาปรกติ 600 Yen) ตอนนี้หิวมากแล้วเราเดินหาของทานกันแถวๆสถานี UMEDA ก่อนและเป็นการนั่งพักเท้าพักขาไปในตัว

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

ได้ทานอาหารจนอิ่มเสร็จเราก็เดินไปเจอร้านรองเท้าและได้ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้กับภรรยาใส่เพื่อลดอาการเจ็บปวดที่เท้า จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินไปยังตึก อุเมดะ สกาย บิวล์ดิ้ง (Umeda Sky Building) ซึ่งอยู่ห่างจากร้านรองเท้าที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน UMEDA ประมาณ 900 เมตร

ตึกนี้มีลักษณะเป็นตึกแฝด 2 ตึกที่ตั้งสูงตระหง่าน 40 ชั้น (ไม่รวมชั้นดาดฟ้า) มีความสูงถึง 173 เมตร มีส่วนโครงสร้างที่เชื่อมต่อกันระหว่างตึกอยู่บริเวณตรงกลาง และบริเวณด้านบนสุด 3 ชั้นที่มีช่องวงกลมอยู่ตรงกลาง คือ ชั้นที่ 39, 40 และดาดฟ้า โดยชั้นที่ 39 เป็นห้องอาหาร, ชั้นที่ 40 เป็นที่ชมวิวภายในอาคาร และชั้นดาดฟ้าเป็นจุดชมวิวแบบเปิดโล่ง (Umeda Sky Building Floating Garden Observatory) สามารถสัมผัสบรรยากาศและเดินเป็นวงกลมชมวิวเมืองโอซาก้าแบบพาโนรามา 360 องศาได้กว้างไกล

เมื่อเดินมาถึง อุเมดะ สกาย บิวล์ดิ้ง แล้วให้สังเกตุป้ายชี้บอกทางไป "Floating Garden Observatory" ซึ่งจะเป็นทางไปที่ลิฟท์ภายในอาคารเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 39 ที่ชั้นนี้จะมีจุดขายบัตรผ่านขึ้นไปยังชั้นที่ 40 ในราคาคนละ 1,000 Yen แต่สำหรับผู้ที่มีบัตรโอซาก้าอะเมซิ่งพาส (OAP) สามารถขึ้นได้ฟรีโดยแค่ยื่นให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค้ดเท่านั้น เราขึ้นไปยังชั้นที่ 40 และชั้นดาดฟ้าได้โดยเดินขึ้นทางบันได เพื่อไปชมวิวพระอาทิตย์ตกดินและแสงไฟเมืองโอซาก้ายามค่ำคืน

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง

อยู่ชมวิวจนแสงดวงอาทิตย์หมดแล้วเดินถ่ายรูปสักพักประมาณ 19:20 น. เราก็กลับลงมาจากตึกโดยเดินลงบันไดจากชั้นดาดฟ้ามาต่อแถวที่ชั้น 40 และเดินลงบันไดมาที่ชั้น 39 จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนลงมาที่ชั้น 38 บันไดเลื่อนจุดนี้ดูล้ำหน้ากว่าที่อื่นเพราะอยู่นอกอาคาร มีการออกแบบได้ล้ำอนาคตดูสวยงามเหมือนกับเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ของยานอวกาศเลยทีเดียว และจากชั้น 38 เราก็ลงต่อด้วยลิฟท์จนมาถึงชั้นล่าง

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง
Shutterstock photo ID: 1129334468

เราเดินกลับจาก อุเมดะ สกาย บิวล์ดิ้ง มายังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน UMEDA เพื่อกลับโรงแรมที่พักโดยขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดง Midosuji Line (M16) ระหว่างทางแวะลงที่สถานี NAMBA (M20) เดินเล่นและหาของทานมื้อเย็นที่ย่าน โดทงโบริ แล้วกลับโรงแรมด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดงอีกครั้งไปลงที่สถานี DOBUTSUEN-MAE (M22) สำหรับคืนนี้ลากันไปเพียงเท่านี้ราตรีสวัสดิ์ครับ ...^_^

รีวิวแนะนำท่องเที่ยว โอซาก้า ชมซากุระ และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ ด้วยตัวเอง


โปรดติดตามรีวิวตอนต่อไป EP5/5
ย้อนกลับไปรีวิวตอนที่แล้ว EP1/5, EP2/5, EP3/5

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)