รีวิวแนะนำทริปตามหาโอปป้าหน้าหนาวที่เกาหลีใต้ (South Korea) ด้วยตัวเองไม่ง้อทัวร์ 5 วัน 4 คืน (ตอนที่ 6)

และแล้วก็มาถึงวันนี้วันที่เรามีกำหนดการต้องเดินทางกลับเมืองไทย แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะช่วงเช้านี้เรามีแผนที่จะออกไปหามื้อเช้าทานกันข้างนอกและเดินเล่นกันที่ตลาดนัมแดมุน สภาพอากาศวันนี้ที่กรุงโซลก็ยังไม่มีหิมะตกแต่อุณภูมิก็ยังคงติดลบอยู่ เพราะฉนั้นผ้าปิดปากปิดจมูก ถุงมือ และหมวกคลุมหัวสำคัญมากครับ เราทานรองท้องกันเล็กน้อยและก็ออกจากที่พักกันตอนแปดโมงเช้า

เราไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Hongik University ทางเข้าที่ 6 ใกล้ๆที่พัก ระหว่างทางเดินสวนทางกับฝูงชนแถวยาวเหยียดที่ต้องไปแย่งกันขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานกันในตอนเช้า เรานั่งสาย Airport Railroad ไปลงที่สถานี Seoul แล้วเปลี่ยนเป็นสาย 4 สีฟ้าชานชาลาที่ 426 นั่งไปอีกหนึ่งสถานีเพื่อไปลงสถานี Hoehyeon ออกทางออกที่ 5 ก็มาถึงแล้วครับ ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market) ผมว่ามันคล้ายๆตลาดสำเพ็งบ้านเราเลย ระหว่างที่เดินเที่ยวชมก็มองหาของทานไปด้วย เดินไปเจอซาลาเปาอะไรก็ไม่รู้ลูกใหญ่ดีจังขอลองกินหน่อยนะ และตบท้ายด้วยขาหมูเกาหลี บอกคุณป้าว่าเอาสำหรับทานสองคน แต่เท่าที่เห็นนี้น่าจะเหมาะกับทานสี่คนมากกว่า เราทานกันไม่หมดทิ้งไปเสียดายแย่เลยบอกให้ห่อกลับบ้าน(ที่ประเทศไทย)ด้วย

เราออกจากที่นี่เพื่อกลับที่พักกันประมาณสิบโมงโดยใช้เส้นทางเดิม ถึงที่พักก็เก็บของแพ็คกระเป๋าเดินทาง อาบน้ำแต่งตัว และเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักกันตอนเที่ยงตรง เดินลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Hongik University สาย Airport Railroad นั่งไปลงที่สถานี Incheon International Airport สนามบินนานาชาติอินชอน พอออกจากรถไฟฟ้าก็เดินตามป้าย "Passenger Terminal" ไปเรื่อยๆ เจอป้ายบอกทางของสายการบิน ASIANA AIRLINES ก็ตามไปได้เลยครับ ชั้นขาออกอยู่ที่ชั้น 3 เราต้องขึ้นลิฟท์อีกทีครับ พอออกจากลิฟท์ก็เดินไปดูป้ายเคาน์เตอร์เช็คอินว่าสายการบินของเราเปิดให้เช็คอินอยู่ที่เคาน์เตอร์ที่เท่าไหร่

เนื่องจากเรามาถึงเร็วก่อนที่เคาน์เตอร์ของสายการบินจะเปิดให้เช็คอิน เราก็เลยต้องเช็คอินด้วยตัวเองที่เครื่อง Self Check-in Service พอเครื่องพิมพ์ใบบอร์ดดิ้งพาสออกมาให้เราแล้ว ก็เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์รับฝากสัมภาระเพื่อทำการเช็คอินสัมภาระ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปคอยที่ประตูขึ้นเครื่องบินได้เลยครับ เราขึ้นเครื่องบินกันประมาณหกโมงยี่สิบนาทีในตอนเย็น และก็เป็นภรรยาผมเท่านั้นครับที่ต้องนั่งติดหน้าต่างเครื่องบิน ดูสิครับนั่งไม่ขยับเลยกลัวลุกเสียม้า เที่ยวบินขากลับบนเครื่องบินก็มีอาหารเสริฟเช่นกัน โดยมีสองเมนูให้เลือกเหมือนตอนที่เราบินมาระหว่างข้าวยำเกาหลีกับข้าวหน้าไก่ ผมก็ยังเลือกข้าวหน้าไก่เหมือนเช่นเดิม หลังจากทานเสร็จก็เขียนใบขาเข้าประเทศไทยสำหรับเอาไว้ยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยให้เรียบร้อย

เรามาถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเวลาประมาณสี่ทุ่มสิบนาทีตามเวลาประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณห้าชั่วโมงห้าสิบนาทีซึ่งช้ากว่าขาไปประมาณสี่สิบนาที พอลงจากเครื่องบินก็เดินตามป้าย "ตรวจคนเข้าเมือง" หรือ "Immigration" หรือ "Arrivals" ไปเรื่อยๆ เดินถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ไปเข้าแถวตามป้าย "หนังสือเดินทางไทย" พอผ่านด่านเสร็จก็ไปดูป้ายรับกระเป๋าว่ากระเป๋าเดินทางของเราอยู่สายพานลำเลียงสัมภาระที่เท่าไหร่ รับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยก็แยกย้ายกันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับ